หุ้นหลัง ‘ไทยแลนด์ โฟกัส 2015’ลูบคมตลาดทุน

ปกติแล้วหลังงาน “ไทยแลนด์ โฟกัส”ตลาดหุ้นไทยจะดีดตัวขึ้น


ธนะชัย ณ นคร

 

ปกติแล้วหลังงาน “ไทยแลนด์ โฟกัส”ตลาดหุ้นไทยจะดีดตัวขึ้น

ก่อนหน้านี้ บล.ธนชาต บอกว่า จากสถิติย้อนหลังดัชนีหุ้นไทยจะปรับขึ้นราวๆ 3.2% หลังการจัดงานไทยแลนด์โฟกัสในแต่ละปี

ส่วนแนวโน้มปีนี้ก็มีโอกาสกว่า 88% ที่ดัชนีจะขึ้นเช่นนั้น

ทว่าในมุมมองของคุณเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย กลับมองว่า ตลาดหุ้นไทยหลังงานไทยแลนด์ โฟกัส จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ณ ขณะนั้น

หรืออาจไม่แน่นอนเสมอไปว่า ดัชนีจะปรับขึ้น

เช่น เดียวกับนักวิเคราะห์อีกหลายคนก็มองว่า ในปี 2558 นี้ มีปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทยอีกเยอะ

เช่น การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้

ถึงแม้ว่านักลงทุนต่างจะรับรู้ก่อนแล้วว่า มีโอกาสสูงมากที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย และจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้น (ไทย)

แต่หากถึงเวลาจริงๆ ก็คงมีสะดุ้งกันอีกรอบ

ปัจจัยเรื่องตลาดน้ำมัน หรือราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังอยู่ระดับต่ำ

ล่าสุดการประชุมของกลุ่มโอเปก ก็ตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมันใหม่ว่าควรจะปรับลดลงหรือไม่ เพื่อดึงราคาขึ้นมา

และนั่นทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกปรับลงอีก

อีกปัจจัยคือเรื่องของการเมือง

เพราะอย่าลืมว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทำให้กลายเป็นข้อจำกัดการลงทุนของกองทุนขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลก

หากนับจากต้นปี 2558 มาถึงวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นักลงทุนต่างขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้วกว่า 1.23 แสนล้านบาท

ส่วนนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 5.87 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 6.90 หมื่นล้านบาท

บัญชีโบรกฯ ขายกว่า 4.61 พันล้านบาท

นี่ยังดีที่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไป ยังเข้ามาเก็บหุ้นได้ ไม่เช่นนั้น ดัชนีหุ้นไทยคงรูดหนักกว่านี้

หุ้นตัวใหญ่ๆ หรือบิ๊กแค็ป ที่ราคารูดลงมา เช่น ในกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK และ BBL ก็ถูกต่างชาติกระหน่ำขายออกมาต่อเนื่อง

KBANK นับจากต้นปี ราคาลงมาแล้ว 27%

ส่วน BBL ปรับลงมา 17%

หุ้น PTT ที่มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่สุดในตลาดหุ้นไทยกว่า 7.80 แสนล้านบาท ราคาหุ้นก็ปรับลง 22% จากต้นปี

หุ้นขนาดใหญ่หลายตัว ได้ถูกนักวิเคราะห์แนะนำเลี่ยงการลงทุนไปก่อน

หรืออย่างกลุ่มสื่อสารที่ยังฝุ่นตลบ เกี่ยวกับการประมูล 4G ก็มีคำแนะนำให้เลี่ยงลงทุน จนกว่าจะมีความชัดเจนการประมูล 4G ในระบบคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz

เพราะจะต้องมาทบทวนราคาพื้นฐานกันใหม่

นักลงทุนรายใหญ่ บรรดาเสี่ยๆ ทั้งเสี่ยยักษ์ – วิชัย วชิรพงศ์, คุณนเรศ งามอภิชน และคุณนิเวศ เหมวชิรวรากรและคนอื่นๆ ก็รอความชัดเจนเกี่ยวกับรายได้หลังประมูล 4G ได้ เช่นกัน

พวกเขาต่างมองว่า เงินประมูลมันสูงเกินไป

เมื่อหุ้นขนาดใหญ่ ถูกกดดันจากหลายปัจจัย ทำให้โอกาสดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปิดสิ้นปีนี้แบบสวยๆ ก็คงยาก

นักลงทุนต่างชาติเอง ที่มีการกลับเข้ามาซื้อบ้าง แต่ก็น้อยมาก

และส่วนใหญ่จะซื้อหุ้นขนาดกลางและเล็กประเภท Growth Stock และก็เป็นการเก็งกำไรระยะสั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ด้วย

ส่วนหุ้นใหญ่ๆ แม้เศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว

แต่หากยังไม่เห็นสัญญาณการเลือกตั้ง หรือยังไม่มีความชัดเจน พวกเขาก็ยังชะลอการลงทุนออกไป

เว้นแต่นักลงทุนในประเทศจะมีกำลังเงินเพียงพอในการเข้ามาเก็บหุ้นนั่นแหละ (เช่น กองทุน LTF-RMF) ก็พอมีโอกาสทำให้ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสิ้นปีนี้ และปี 2559 อาจจะออกมาสวย

งานไทยแลนด์ โฟกัส 2015 ที่เพิ่มจะจบไป มีนักลงทุนจากในประเทศ และทั่วโลกมาร่วมรับฟังกว่า 400 ราย

ในจำนวนดังกล่าวเป็นนักลงทุนสถาบัน 80 ราย

น่าจับตาหุ้นไทย หลังงาน “ไทยแลนด์ โฟกัส 2015”

จะรุ่งหรือจะร่วง…

Back to top button