“เครดิตสวิส” มองปรับ PPA เป็นไปยาก ลุ้น GULF เซ็นสัญญา “อีแกท” เพิ่ม ชูเป้า 63 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงจากข้อมูลย้อนหลัง จากกรณีที่เคยมีการประกาศจะปรับข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตได้จากโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งเป็นแผงโซลาร์ที่ติดตั้งบนหลังคา (PPA) มาแล้วหลายครั้งก่อนการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายแล้วไม่มีการประกาศออกมาแต่อย่างใด

โดยทาง บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) มองว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน (PPA) ของเอกชนรายใหญ่ (IPP) หลังจากที่มีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 เม.ย.66 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาเห็นชอบรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบกกพ. สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 โดยมีผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 175 โครงการ ซึ่งรัฐบาลมีพันธะต่อสัญญาที่ทำไว้กับเอกชนที่ชนะประมูลแข่งขันสูงสุด หนึ่งในนั้นคือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้ชนะประมูลขายไฟ จำนวน 27 โครงการ ปริมาณเสนอขาย 1,623.91 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นพลังงานลม 9 โครงการ จำนวน 622 เมกะวัตต์

ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 12 โครงการ จำนวน 700.2 เมกะวัตต์ และพลังงานแสงอาทิตย์ 6 โครงการ จำนวน 301.71 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ เครดิตสวิสคาดว่าการประชุม สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในเดือนก.ค.66 จะมีการยื่นเรื่องเสนอให้ลดค่าเอฟทีลง ซึ่งจะมีผลเดือน ก.ย.-ธ.ค.66

ด้านนโยบายพลังงาน คาดว่าจะเห็นแรงผลักดันอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตของพลังงานสะอาด

อย่างไรก็ตาม การผลิตก๊าซในอ่าวไทยคาดว่าจะยังต่ำอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการผลิตก๊าซของโครงการจี 1/61 ในปีหน้า ผนวกกับก๊าซนำเข้าจากประเทศพม่าที่ลดลง โดยไทยจึงยังต้องพึ่งพาก๊าซ LNG อยู่ โดยคาดว่าราคาก๊าซของไทยจะอยู่เหนือ 300บาท/mmbtu ในระยะยาว สะท้อนถึงต้นทุนพลังงานที่สูงกว่า 2.5 บาท/kWhr มองว่ามีแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานคาดว่าจะลดลงเนื่องจากราคาก๊าซลดลงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากเทียบกับต้นทุนที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ซื้อไฟจากพลังงานสะอาด และพลังงานน้ำจะอยู่ในระดับต่ำกว่าพลังงานที่ผลิตจากก๊าซ

ขณะที่เครดิตสวิส มองหุ้น GULF Outperform ประเมินว่าจะรายงานผลประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเหนือคู่แข่งด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า และผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนในขนาดที่ใหญ่กว่า ทั้งนี้คาดว่าจะมีเซ็นสัญญากับ EGAT เพิ่ม หรือไม่ก็จะเป็นการเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศด้านพลังงานสะอาดและก๊าซ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 63 บาท