DITTO ดีด 2% ลุยแตกไลน์ธุรกิจใหม่ หลังเข้าถือหุ้น SIT เดินหน้าบุกต่างประเทศ

DITTO ราคาดีด 2% มั่นใจทิศทางธุรกิจหลังเข้าถือหุ้น “โสมาภา” สัดส่วน 18% เชื่อสนับสนุนธุรกิจของบริษัทอย่างมากทั้งการรับรู้รายได้ที่มีแนวโน้มที่ดีจากการที่ไทยได้เปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อมบุกต่างประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ล่าสุด ณ เวลา 11:13 น. อยู่ที่ระดับ 27.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.89% สูงสุดที่ระดับ 27.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 26.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20.62 ล้านบาท

นายฐากร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DITTO เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมแตกไลน์ธุรกิจเดิมไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญ บริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIT จำนวน 45,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 18% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,080 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม และยังเป็นช่องทางให้ DITTO รุกขยายธุรกิจต่างประเทศอย่างจริงจังด้วย

สำหรับ SIT เป็นผู้เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์และเป็นผู้ให้บริการ ระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) และประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร (PNR) รายเดียวในประเทศไทยและเป็น 1 ใน 3 บริษัทของโลก

นายฐกร กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน SIT ได้รับสัญญาจาก บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ในการบริหารจัดการระบบคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกในสนามบินทั้ง 6 แห่งระยะเวลาสัญญายาวไปจนถึงปี 57  ส่วนรายได้คิดจาก Transaction ของจำนวนผู้โดยสาร หากมีจำนวนผู้โดยสารมากเท่าไหร่รายได้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ทาง SIT ยังได้รับสัญญาจากรัฐบาลลาว เป็นผู้ให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) และประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร (PNR) โดยมีระยะเวลาของสัญญายาวถึง 18 ปีและได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ปียังเหลือเวลาอีก 15 ปีตรงนี้ถือว่า DITTO มีส่วนในการรับรู้รายได้ด้วย ในอนาคตอันใกล้ทาง SIT ยังเตรียมขยายธุรกิจไปยังกลุ่มอาเซียน โอเชียเนียและแอฟริกากว่า 20 ประเทศ

นายฐกร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อดูศักยภาพทางธุรกิจของ SIT แล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจของ DITTO จากการเข้าร่วมถือหุ้น 18% ในครั้งนี้อย่างมากทั้งการรับรู้รายได้ที่มีแนวโน้มที่ดีจากการที่ไทยได้เปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าในปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 25 ล้านคนและในปี 67 จะกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด ในการรับรู้รายได้นั้นทาง DITTO จะเริ่มรับรู้รายได้สิ้นปี 66 เป็นต้นไป

ส่วนในต่างประเทศนั้น นอกจาก DITTO จะได้รายได้จากสัญญาที่ได้จากรัฐบาลลาวในอีก 15 ปีที่เหลือแล้ว ในประเทศอื่นๆที่เป็นเป้าหมายอีกกว่า 20 ประเทศ ทาง DITTO มีทั้งเข้าไปร่วมลงทุนกับ SIT และเป็นช่องทางให้นำ Product ของบริษัท ไปบุกตลาดในประเทศเหล่านี้ควบคู่กันไปด้วย

Back to top button