CK เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4 ชุด 3-4.15% ขายสถาบัน-รายย่อย 22-24 พ.ค.นี้
CK เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4 ชุด 3-4.15% ขายสถาบัน-รายย่อย 22-24 พ.ค.นี้ ผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย มั่นใจกระแสตอบรับดี หลังงานในมือพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนความแข็งแกร่ง
นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างที่สามารถรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนทุกรูปแบบ และมีความสามารถในการพัฒนา ลงทุน และบริหารโครงการสัมปทานระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศและระดับภูมิภาคอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดกำหนดวันเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวจำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.00-3.30% ต่อปี ขณะที่อีก 3 รุ่น ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ได้แก่ รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 3.20-3.50% ต่อปี, รุ่นอายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 3.60-3.80% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.00-4.15% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยบริษัทฯ จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร สะท้อนสถานะของบริษัทฯ ในการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทย ที่มีความสามารถในการรับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงการที่มีความซับซ้อน และมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ รวมถึงโอกาสในการเติบโตจากมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ซึ่งจะรักษาความสามารถในการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูงในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเอาไว้ได้ต่อไป
โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเซ็นสัญญางานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) มูลค่า 9.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้มูลค่างานในมือของบริษัทเกินกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่า 109,216 ล้านบาท ที่คาดว่าจะมีการลงนามสัญญาได้ปลายปี 2566 ซึ่งจะช่วยให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ จากประมาณการพื้นฐานของทริสเรตติ้ง บริษัทฯ จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานได้ตามที่ ทริสประมาณการไว้ ในขณะเดียวกัน ทริสยังคาดว่าบริษัทฯ จะรักษา EBITDA Margin ให้อยู่ในช่วง 11%-12% และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ให้อยู่ที่ประมาณ 10 เท่าเอาไว้ได้ในระยะยาวอีกด้วย
ปัจจุบัน บมจ.ช.การช่าง ดำเนินธุรกิจการก่อสร้าง ทั้งระบบขนส่งมวลชน ท่าอากาศยาน ถนน ทางด่วน สะพาน พลังงาน ระบบน้ำและท่าเรือ และธุรกิจการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค ด้วยการเป็นผู้ลงทุนพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคด้านต่างๆ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประกอบธุรกิจก่อสร้างและบริหารทางพิเศษ รวมถึงบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า ในสัดส่วน 33.37% บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตจำหน่ายน้ำประปาและบริหารจัดการน้ำเสีย ในสัดส่วน 19.40% และถือหุ้นในบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ผู้ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ในสัดส่วน 30.00% (ข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)
ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ช.การช่าง ระบุว่า หุ้นกู้ ช.การช่าง จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน เนื่องจากเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะความหลากหลายของอายุหุ้นกู้ที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามระยะเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ลงทุน ภายใต้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงที่จะเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน รวมถึงโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ทั้งจากงานก่อสร้างที่มีศักยภาพ และการบริหารโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานระดับภูมิภาค รวมถึงงานในมือ (Backlog) ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและยั่งยืนของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ ช.การช่าง ที่เป็นผู้ลงทุนทั่วไป สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ติดต่อผ่าน 2 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ,ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)