โบรกแนะนำ 3 กลุ่มหลักมีปัจจัยหนุนSET บ่ายยืนแดนลบ แนวรับ 1,300 จุด

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (8 ธ.ค.) เช้านี้ปรับลงแรง เนื่องจากราคาน้ำดิบปรับลงแรงส่งผลกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างหนัก อีกทั้งยังกังวลเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงรวมถึงทองคำด้วย

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีน่าจะยังคงอยู่ในแดนลบต่อ โดยมีแนวรับถัดไป 1,300 จุด แนะนำ “Selective” ต่อไป เน้น รับเหมาฯ-สื่อสารปันผลสูง และหุ้น Momentum แข็ง อย่าง CK-INTUCH-ADVANC-BDMS และ MINT

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงแรง หลุดแนวรับ 1,320 จุดลงมา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานลงหนัก สอดคล้องกับความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ส่งผลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงรวมถึงทองคำด้วย

ส่วนตลาดหุ้นไทยใกล้คาบเกี่ยววันหยุดยาว ทำให้นักลงทุนห่างหายไปจากตลาดหุ้นส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายบางตา ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลง จากความกังวลเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมันร่วงกดดัน

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าน่าจะยังคงอยู่ในแดนลบ โดยมีแนวรับถัดไป 1,300 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 8 ธ.ค.) SET ปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาดทำจุดต่ำสุดที่ 1,315 จุด ด้วยแรงขายหุ้นขนาดใหญ่เกือบทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง โดยถ้าพิจารณาในทางเทคนิค ดูเหมือนว่า SET ทำรูปแบบ Head & Shoulder โดยมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,305 จุด แนะนำ “Selective” ต่อไป เน้น รับเหมาฯ สื่อสารปันผลสูง และหุ้น Momentum แข็ง อย่าง CK INTUCH ADVANC BDMS MINT

ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” CK ล่าสุดชนะประมูลระไฟรางคู่จิระ-ขอนแก่น 2.34 หมื่นล้านบาท (ราคากลาง 2.36 หมื่นล้านบาท) โดยนอกจากการชนะประมูลจะเป็นการเพิ่ม Backlog แล้ว ประเด็นการควบรวมกิจการระหว่าง BMCL + BECL = BEM เร็วๆ นี้ทำให้ BEM มีความพร้อมทั้งฐานเงินทุน และมีโอกาสในการเติบโตธุรกิจรถไฟฟ้าอีกมาก จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า SET ทำรูปแบบ Head & Shoulder…แนวรับสำคัญ 1,305 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,458.04 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

SPRC มูลค่าการซื้อขาย 1,070.54 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.70 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 942.10 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

TKN มูลค่าการซื้อขาย 765.82 ล้านบาท ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 677.57 ล้านบาท ปิดที่ 16.40 บาท ลดลง 0.40 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์