IFEC ลั่นปี 59 กำไรราว 500-1,000 ลบ.รุกขยายพลังงานลมทั้งใน-ตปท.

IFEC ลั่นปี 59 กำไรราว 500-1,000 ลบ.รุกขยายพลังงานลมทั้งใน-ต่างประเทศ


นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ รองประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรสุทธิปี 59 จะอยู่ที่ราว 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับการทำกำไรในปัจจุบัน หลังบริษัทวางเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์(MW) จากที่คาดราว 50 MW ในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งจากในและต่างประเทศ

ขณะที่วางเป้าหมายนำบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วินด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (IWIND)ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลม เข้าตลาดหุ้นในช่วงไตรมาส 4/59 ระดมทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมไม่ต่ำกว่า 1,000 MW ภายในปี 63

อีกทั้งคาดากำไรสุทธิปีนี้อาจจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 72.7 ล้านบาท หากบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมนเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับไฟเบอร์ออฟติก(Fiber Optic) โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ(Smart Grid) และอื่นๆ สามารถเข้าซื้อกิจการได้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/58 นี้ ซึ่งจะสามารถบันทึกกำไรเข้ามาได้ราว 200-300 ล้านบาท        

สำหรับปี 59 เบื้องต้นบริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ระดับ 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยังจะมีรายได้จากบริษัทย่อยเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้บริษัทเตรียมที่จะนำ ICAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 60

ด้านนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ ของ IFEC คาดว่าบริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมในปี 59 เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 200 MW จาก ณ สิ้นปีนี้ที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ราว 50 MW โดยการเพิ่มขึ้นจะมาจากกำลังผลิตไฟฟ้าภายในประเทศ 23.765 MW แบ่งเป็น โครงการพลังงานลมลิกอร์ 8.965 MW , พลังงานลมเทพา 4.8 MW และพลังงานลมเกาะพยาม 5 MW ที่จะสามารถจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/59 และยังอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนอีก 5 MW

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอผลประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า(PPA) ไม่ต่ำกว่า 50 MW จากที่ได้ยื่นข้อเสนอไปทั้งหมด 120 MW

สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศ แบ่งเป็น โครงการพลังงานลมในเวียดนาม กำลังการผลิต 25 MW และโครงการพลังงานลมในเกาหลีใต้ กำลังการผลิตราว 33 MW ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 30% ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศออสเตรเลีย กำลังการผลิต 106 MW ซึ่งปัจจุบันมีการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว

ขณะที่นายสุเมธ สุทธภักติ ประธานกรรมการบริหาร ของ IWIND กล่าวว่า บริษัทเตรียมที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงไตรมาส 4/59 เพื่อระดมทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท รองรับเป้าหมายการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมครบ 1,000 MW ในปี 63 โดยหลังจากที่บริษัทสามารถเข้าตลาดหุ้นแล้ว IFEC จะถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% โดยปัจจุบันบริษัทได้เริ่มการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมโครงการแรกที่ปากพนัง กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ และได้กำลังการผลิตค่อนข้างดี บริษัทจึงเตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะมีทั้งการพัฒนาโครงการเอง การเข้าซื้อโครงการ การร่วมลงทุน และการเข้าถือหุ้นบางส่วน

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับใบอนุญาต PPA เพื่อทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศช่วงไตรมาส 2/59 อีก 248-300 MW ขณะที่โครงการในเวียดนาม บริษัทเตรียมพัฒนาอีก 2 โครงการ แบ่งเป็นกำลังการผลิต 92 MW และ 90 MW ,โครงการในออสเตรเลียเตรียมเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรอีก 2 โครงการ แบ่งเป็น 160 MW และ 177 MW และโครงการในเกาหลีใต้อยู่ระหว่างขอ PPA กำลังการผลิต 200 MW

Back to top button