BECL-BMCL เฮ! ครม.ไฟเขียวควบรวมกิจการเป็น BEM
ครม.อนุมัติควบรวม BECL-BMCL เพื่อความเข้มแข็ง-ไม่ทำให้รัฐเสียหายและจัดตั้งเป็น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้า (BEM)
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการควบรวมและโอนสัญญาสัมปทานระหว่างบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL และ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL และจัดตั้งเป็น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
ทั้งนี้ การควบรวม 2 บริษัทจะต้องดู 2 เรื่อง คือ 1.การโอนสัญญาสัมปทาน 2.การแก้ไขสัญญา และจะต้องขออนุญาตจากคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาใน 3 เรื่อง คือ 1.ข้อกฎหมาย 2.รัฐเสียประโยชน์หรือได้ประโยชน์จากการควบรวม 3.ประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากการควบรวมนี้ จะได้รับการดูแลดีเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ในส่วนของข้อกฎหมายคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจเดิมของทั้งสองบริษัทได้เข้าไปถือหุ้นอยู่ใน 2 บริษัทเดิมได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่มีผลกระทบในข้อกฎหมาย ขณะเดียวกันคณะกรรมการกำกับกิจการร่วมลงทุนก็ให้ความเห็นชอบว่าการควบรวมบริษัทแบบนี้ไม่ได้มีผลกระทบในความเสียหายต่อรัฐและต่อผลประโยชน์ของชาติ ด้านอัยการก็ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ
“เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องข้อกฎหมายในการควบรวมกิจการระหว่าง BECL และ BMCL มาจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อ BEM ไม่มีผลกระทบทางกฎหมาย”
ส่วนทางเศรษฐกิจได้ข้อสรุปว่าการควบรวมกิจการดังกล่าว ทำให้บริษัทมีความเข้มแข็งทางธุรกิจ ซึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จะอาศัยแค่งบประมาณแผ่นดินเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ภาคเอกชนจะต้องมีความเข้มแข็งด้วยเช่นกัน
“การควบรวมกันทำให้บริษัทเข้มแข็ง ถือว่าส่งผลดีในแง่ของการสนับสนุนส่งเสริมให้กิจการต่างๆในประเทศมีความเข้มแข็งไปด้วย การจะไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน CLMV หรือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่บริษัทเอกชนในประเทศของเรามีความเข้มแข็งมากขึ้น ทำให้การจ้างงานภายในประเทศ การเชื่อมต่อกับภาคธุรกิจ SME มีความแข็งแกร่งขึ้นด้วย”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ขณะที่ประชาชนก็จะยังได้รับการดูแลดีเท่าเดิม เพราะจะเป็นการบริหารสัญญาตามหลักเกณฑ์เดิม แม้ว่าอัตราสัดส่วนในบริษัทใหม่ของทั้ง BECL และ BMCL จะลดลง รวมถึงผู้ถือหุ้นหรือรัฐวิสาหกิจที่ถือหุ้นสัดส่วนถือหุ้นจะลดลง แต่หานำสัดส่วนของ BECL และ BMCL มารวมกันก็จะยังเป็นสัดส่วนเท่าเดิม