KTB อัพแวลู..‘เป๋าตัง’.!
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มแบงก์เผชิญกับกระแสดิสรัปชันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องทรานส์ฟอร์มเรื่องต่าง ๆ และนำไปสู่การหาน่านน้ำใหม่ ๆ
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มแบงก์เผชิญกับกระแสดิสรัปชันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องทรานส์ฟอร์มเรื่องต่าง ๆ และนำไปสู่การหาน่านน้ำใหม่ ๆ เนื่องจากน่านน้ำเดิม (รายได้จากดอกเบี้ย) เริ่มแห้งขอด ไม่เพียงพอสำหรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของแบงก์อีกต่อไปแล้ว จึงต้องหันมาช่วงชิงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยกันมากขึ้น โดยอาศัยดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเป็นตัวขับเคลื่อน..!!
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน ก็กรณีแบงก์สีฟ้า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ที่อาศัยความได้เปรียบในการเป็นแบงก์รัฐ เดินหน้าเต็มสตรีมกับการปั้นรายได้ค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ไล่มาตั้งแต่การเปิดขายหุ้นกู้ ปล่อยเงินกู้แบบ Digital loan ขายประกัน ขายกองทุน และขายทองคำ เป็นต้น…
แต่ที่สร้างความฮือฮาปาจิงโกะ เห็นจะเป็นการขายสลากดิจิทัลล่ะมั้ง ซึ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนต้องเพิ่มจำนวนเรื่อย ๆ งวดล่าสุดยอดขายปาไปกว่า 18 ล้านใบ แถมแว่ว ๆ มาว่าเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 30 ล้านใบ และภายใน 3 ปี หรือปี 2568 จะเพิ่มเป็น 50 ล้านใบเชียวหนา
บ่งบอกว่าการเสี่ยงโชคอยู่ในเส้นเลือดใหญ่ของคนไทยนะเนี่ย…
แล้วคงไม่ต้องสาธยายนะว่า KTB ในฐานะผู้พัฒนาแอปฯ เป๋าตังจะรับทรัพย์ (ค่าฟี) ไปมากขนาดไหน..? ถ้าไม่ใช่เป๋าตุง..!!
ทว่านอกจากการขายสลากดิจิทัลที่ปั๊มค่าฟีได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว อีกโปรดักส์ที่น่าสนใจ เห็นจะเป็นการขายกองทุนผ่านแอปฯ เป๋าตัง..!!
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหว จากการที่ KTB ควงแขนกล้ามเป็นมัด ๆ ของบริษัทลูก บลจ.กรุงไทย (KTAM) ไปเกี่ยวก้อยเป็นพันธมิตรกับ ฟิเดลิตี้อินเตอร์เนชันแนล (Fidelity International) บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก เพื่อร่วมกันจัดตั้งกองทุนรวมเข้าลงทุนกระจายในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก 3 กองทุน แยกตามเป้าหมายผลตอบแทน และระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ โดยจะเสนอขายผ่านแอปฯ เป๋าตัง และ Krungthai NEXT คาดภายในไตรมาส 3/2566 นี้
ในมุมของ KTAM การขายกองทุนผ่านแอปฯ เป๋าตัง จะทำให้มีช่องทางเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น จากสมัยก่อนกองทุนถูกมองว่าเป็นโปรดักส์ของคนรวย คนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก ต่อไปก็เข้าถึงได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วขึ้น
ส่วนมุม KTB เป็นการอัพแวลูจากฐานลูกค้าต่อหัวให้มากขึ้น…ซึ่งคงไม่ใช่ทั้งหมดที่จะซื้อกองทุน เอาแค่ 10% ของยอดผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังที่ปัจจุบันมีมากกว่า 40 ล้านคน ก็ปาไปกว่า 4 ล้านคนแล้วนะ…
ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่าแอปฯ เป๋าตังมีลูกค้าทุกระดับชนชั้น ตั้งแต่ฐานราก (ผ่านบัตรคนจน) ยันคนชั้นกลางและสูง (ผ่านโครงการคนละครึ่ง, ยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นต้น) ในจำนวนนี้คงมีไม่น้อยที่สนใจจะซื้อกองทุนบ้างแหละน่า
สุดท้ายเมื่อทุกอย่างมารวมศูนย์อยู่ที่แอปฯ เป๋าตัง กลายเป็นซูเปอร์แอปฯ ทางด้านการเงิน แล้วรายได้ค่าฟีจะไปไหนเสีย ถ้าไม่ใช่ KTB ที่รับไปเต็มกระบุง…
โอเค…แม้ตอนนี้รายได้และกำไรจากแอปฯ เป๋าตังอาจไม่มากเมื่อเทียบกับพอร์ตรายได้ดอกเบี้ย แต่มาร์จิ้นดีกว่าเห็น ๆ…
ดังนั้น ถ้าให้เดา KTB ไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอก…คงหาช่องทางอัพแวลูแอปฯ เป๋าตังต่อไปเรื่อย ๆ…ส่วนจะเป็นอะไร ยังไง…อันนี้ต้องจับตากันต่อไป
ถ้าไม่เชื่อ…ก็ลองไปถามแม่ทัพใหญ่แบงก์สีฟ้า “เฮียผยง ศรีวณิช” ดูสิคะ…!!
…อิ อิ อิ…