รัฐบาลฟันน้ำนมกับ 14 ตุลาครั้งที่ 2
ต้องยอมรับกันว่าชัยชนะของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมาเกิดจากเจตนารมณ์ของคนรุ่นใหม่และผู้รักความยุติธรรมในสังคมทั้งหลาย
ต้องยอมรับกันว่าชัยชนะของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมา เกิดจากเจตนารมณ์ของคนรุ่นใหม่และผู้รักความยุติธรรมในสังคมทั้งหลาย เป็นเรื่องผิดความคาดหมายของเซียนการเมืองทุกสำนัก ที่ประเด็นทางสังคมเอาชนะประเด็นทางเศรษฐกิจได้
ทำให้คิดย้อนไปถึงปรากฏการณ์หลัง 14 ตุลา หรือนี่จะเรียกว่าการกลับมาของ 14 ตุลาครั้งที่ 2 ก็ว่าได้
ข้อเสนออันโดดเด่นของพรรคก้าวไกลที่จะแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา112 ที่ปล่อยให้อำนาจรัฐไทยรังแกประชาชนด้วยข้อหาหมิ่นสถาบัน และข้อเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารให้เป็นทหารอาสาแทน น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายโดยเฉพาะคนอายุต่ำกว่า 25 ปี เทคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลและดับความฝันของพรรคเพื่อไทยที่เสนอประเด็นอันแหลมคมทางเศรษฐกิจที่เคยประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายมาก่อนหน้านี้ จนทำให้แผนการแลนด์สไลด์ไม่เกิดขึ้นตามที่คาดหมายไว้
จุดเด่นของชัยชนะของพรรคก้าวไกลครั้งนี้จะทำให้เสียงกล่าวหาทักษิณ ชินวัตรและพวกเรื่องการใช้เงินซื้อเสียง รวมทั้งการดูหมิ่นประชาชนรากหญ้าว่าถูกซื้อเสียงได้ด้วยเงินลบเลือนไป
การประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรค จำนวน 310 เสียง ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลยืนกรานในอุดมคติของพรรคเรื่องความยุติธรรมของสังคมตรงกับเจตนารมณ์ของมวลชนที่เลือกพรรคนี้ ว่าเสรีภาพสำคัญกว่าปากท้อง ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของ 14 ตุลาคม 2516
นี่คือการเมืองไทยที่กำลังเปลี่ยนโฉมใหม่ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในรอบ 50 ปี อุปสรรคสำคัญที่พรรคก้าวไกลต้องคำนึงถึงคือแนวร่วมอนุรักษนิยม 250 คน ที่พลเอกประยุทธ์แต่งตั้งขึ้นมาและเป็นฐานเครื่องมือที่สำคัญ
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาแนวร่วมนี้ทำงานอย่างซื่อสัตย์ให้กับคนที่แต่งตั้งเข้ามา รัฐบาลก้าวไกลคงลำบากไม่น้อย เงื้อมเงาของกองทัพที่เคยเป็นตัวการก่อรัฐประหารมาโดยตลอด 80 ปีนับแต่ 2475 เป็นต้นมา และยังคงมีอำนาจและเครื่องมือในการทำรัฐประหารอยู่ต่อไปเนื่องจากทำอะไรก็ไม่ผิดเพราะสามารถนิรโทษกรรมตัวเองได้ โดยเฉพาะที่ผ่านมาทหารที่เกษียณอายุแล้วได้ฐานะเข้ามาเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่พร้อมจะแข็งขืนกับอำนาจรัฐบาลพลเรือน ถือตนว่าเป็นทหารของพระราชาแทนที่จะเป็นตัวแทนของรัฐบาลพลเรือน
เรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งคือ งูเห่าในพรรครัฐบาลเองที่ต้องคอยจัดการให้เหมาะสมต่อไป
หากรัฐบาลนี้รอดสันดอนไปได้ ก็ถือว่า 14 ตุลาครั้งที่ 2 สามารถบรรลุเป้าหมายไปได้