เปิดโผ 10 รายชื่อเศรษฐีหุ้นประจำปี 2558“ปราสาททองโอสถ” ครองแชมป์ 8.8 หมื่นลบ.

“หมอเสริฐ” น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ ยังรักษาบัลลังก์แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 58 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 มูลค่ากว่ากว่า 6.2 หมื่นล้าน ตามด้วยบิ๊กพฤกษา “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์” รวย 3.5 หมื่นล้าน ส่วนเจ้าพ่อหุ้นพลังงาน “สมโภชน์ อาหุนัย” มาอันดับ 3 มูลค่า 3.2 หมื่นด้าน ด้านตระกูลปราสาททองโอสถ ก้าวขึ้นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย มั่งคั่ง 8.8 หมื่นล้าน

วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ภาพรวมของเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2558 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2558 จำนวน 6,712 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,801,432 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 รวม 29,961 ล้านบาท หรือ 1.64% นอกจากนี้ ยังได้รับเงินปันผลรวมกันเป็นจำนวนเงิน 51,491 ล้านบาท ลดลง 339 ล้านบาท หรือ 0.65% จากปี 2557

 

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2558 ปรากฎว่า น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 โดยเป็นแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้ หมอเสริฐถือครองหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมมูลค่า 62,365.18 ล้านบาท รวยขึ้น 4,455.70 ล้านบาท หรือ 7.69%

นอกจากหุ้น BDMS ที่หมอเสริฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 19.11% รวมมูลค่า 54,777.21 ล้านบาท และหุ้น บริษัท โรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) หรือ NTV ในสัดส่วน 0.79% มูลค่า 42.46 ล้านบาทแล้ว น.พ.ปราเสริฐ ยังรวยขึ้นจากการนำ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 โดยถือหุ้น BA 18.24% มูลค่า 7,545.52 ล้านบาท

 

อันดับ 2 ได้แก่นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมมูลค่า 35,280.09 ล้านบาท ลดลง 6,299.41 ล้านบาท หรือ 15.15% เนื่องจากหุ้น PS ที่ถืออยู่ในสัดส่วน 54.42% มูลค่า 34,902.50 ล้านบาท ราคาปรับลดลงเหลือ 28.75 บาท ณ 30 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นในปีนี้ จากที่อยู่ในระดับ 34.25 เมื่อปีที่แล้ว โดยราคาปรับลดลง 5.5 บาท หรือ 16.06%

นอกจากนี้นายทองมา ยังถือหุ้น บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI จำนวน 0.71% มูลค่า 224.58 ล้านบาท และ บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN จำนวน 0.61% มูลค่า153.01 ล้านบาท

 

อันดับ 3 นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของกิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในชื่อ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EAโดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 32,495.74 ล้านบาท ลดลงไป 4,069.75 ล้านบาท หรือ 11.13% ประกอบด้วยหุ้น EA 40.49% มูลค่า 32,468.44 ล้านบาท และหุ้น บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE อีก 0.94% มูลค่า 27.30 ล้านบาท

 

อันดับ 4 ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS รวมมูลค่าทั้งสิ้น 32,209.11 ล้านบาท ลดลง 6,990.91 ล้านบาท หรือ 17.83% ประกอบด้วย หุ้น BTS ในสัดส่วน 27.52% มูลค่า 31,991.36 ล้านบาท บริษัท แกรนด์ คาเนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND 0.51% มูลค่า 87.60 ล้านบาท และหุ้นบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI 0.54% มูลค่า 130.16 ล้านบาท

 

อันดับ 5 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 23,026.65 ล้านบาท ลดลง 1,761.96 ล้านบาท หรือ 7.11% ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 24.43% มูลค่า 23,016.30 ล้านบาท และ บริษัท แมนดาริน โฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ MANRIN 1.36% มูลค่า 10.35 ล้านบาท

อันดับ 6 เจ้าของอาณาจักรธุรกิจแบรนด์สุกี้ MK ยุพิน ธีระโกเมน กระโดดขึ้นมานั่งในอันดับ 6 โดยถือหุ้น บริิษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M มูลค่า 20,970.10 ล้านบาท โดยยุพินถือหุ้น M ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 21.97% เป็น 40.03% ในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 8,831.71 ล้านบาท หรือ 72.76%

 

อันดับ 7 นายวิชัย ทองแตง เจ้าพ่อเคเบิลยักษ์ใหญ่แบรนด์ CTH ถือหุ้นรวมมูลค่า 20,431.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.62 ล้านบาทหรือ 0.67% ซึ่งนอกจากหุ้น BDMS 6.71% มูลค่า 19,238.46 ล้านบาท, บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH 7.23% มูลค่า 551.76 ล้านบาท และบริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาทแล้ว ปีนี้วิชัยยังถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 3 บริษัท คือ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART 0.51% มูลค่า 51.42 ล้านบาท, บริษัท สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SGF 17.67% มูลค่า 192.12 ล้านบาท และ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ 6.72% มูลค่า 125.64 ล้านบาท

อันดับ 8 ในปีนี้ ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 19,871.66 ล้านบาท ลดลง 4,148.70 ล้านบาท หรือ 17.27% นอกจากนิติจะเป็นทายาทของอาณาจักรโอสถสภาแล้ว ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีพอร์ตการถือหุ้นมากถึง 14 บริษัท

 

อันดับ 9 นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ถือหุ้นมูลค่ารวม 18,491.78 ล้านบาท ลดลง 1,931.06 ล้านบาท หรือ 11.66% ประกอบด้วย บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ในสัดส่วน 71.99% มูลค่า 5,277.61 ล้านบาท JAS 25.84% มูลค่า 10,326.66 ล้านบาท และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) 5% มูลค่า 2,887.50 ล้านบาท

อันดับ 10 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ เป็นอีกหนึ่งทายาทของหมอเสริฐที่ได้รับอานิสงส์จากการนำบางกอกแอร์เวย์ หรือ BA เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 13,846.15 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 6,451.59 ล้านบาทหรือ 87.25% ประกอบด้วย BDMS ในสัดส่วน 2.71% มูลค่า 7,764.56 ล้านบาท และ BA 14.70% มูลค่า6,081.59 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีทายาทอีก 3 คน ได้ก้าวเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ในปีนี้ ได้แก่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 32 ถือหุ้น BA 15.88% มูลค่า 6,567.74 ล้านบาท, น.ส.อาริญา ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 101 ถือหุ้น BA 7.78% มูลค่า 3,054.29 ล้านบาท,น.ส.สมฤทัย ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 222 ถือหุ้น BA 3.69% มูลค่า 1,527.59 ล้านบาท และภรรยาหมอเสริฐ นางวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 430 ถือหุ้น BA 1.73% มูลค่า 714.13 ล้านบาท

 

สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถ ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก โดยสร้างสถิติความมั่งคั่งสูงสุดถึง 88,086.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 22,771.37 ล้านบาท หรือ 34.86% โดยความมั่งคั่งของตระกูลปราสาททองโอสถที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนี้ เกิดจากการนำ BA จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากหุ้น BA แล้ว ตระกูลปราสาททองโอสถยังถือหุ้น BDMS และ NTV อีกด้วย

ส่วน ตระกูลจิราธิวัฒน์ แชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้น 2 ปีซ้อน ปีนี้หล่นไปอยู่อันดับ 2 โดยเครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูล 44 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 58,548.92 ล้านบาท ลดลง 10,842.96 ล้านบาท หรือ 15.63% ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ โดย 5 เครือญาติในตระกูลได้แก่ นายคีรี นายอนันต์ นายกวิน นายชัยสิทธิ์ และนายสาคร กาญจนพาสน์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 45,052.90 ล้านบาท ลดลง 4,340.87 ล้านบาท หรือ 8.79%

อันดับ 4 ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธ์ โดยทองมาและทิพย์สุดา พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองคน คือ น.ส.มาลินี และ น.ส.ชัญญา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ถือครองหุ้น PS รวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 42,611.34 ล้านบาท ลดลง 7,701.91 ล้านบาท หรือ 15.31% และตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตงที่ครอบครัวทองแตง ได้แก่ วิชัย เพชรัตน์ วิอร อัฐ อติคุณ และอิทธิ ทองแตง ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 41,653.59 ล้านบาท ลดลง 2,428.77 ล้านบาท หรือ 5.51%

 

ที่มา: วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย