“กรภัทร” ชี้ดีลตั้งรัฐบาลคืบ หนุนดัชนีรีบาวด์ แนะหุ้นน่าลงทุน GULF-KBANK

“กรภัทร วรเชษฐ์” เผยว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงนี้ส่งผลต่อแนวโน้มของตลาดหลักทรัพย์ พร้อมแนะหุ้นที่น่าลงทุน GULF-KBANK


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (18 พ.ค.66) ว่าการปรับโครงสร้างหนี้ในฝั่งต่างประเทศชัดเจนว่า def selling นั้นมีพัฒนาการบวก หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน มีการลำดับความสำคัญในเรื่องการตั้งทีมเจรจา และมั่นใจได้ว่าสามารถหลีกเลี่ยงการติดค้างชำระได้อย่างแน่นอน ต่อมาคือ ความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงินสหรัฐนั้นดีขึ้น หลังจากธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางขนาดเล็กระดมเงินฝากได้เร่งขึ้น  ตัวเลขใน 2 สัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมาของสถาบันการเงินสหรัฐนั้นมีเข้ามาค่อนข้างเยอะ สิ่งนี้เป็นการบ่งชี้ถึงภาพรวมประสิทธิภาพธนาคารพาณิชย์ของโลกว่ามีประสิทธิภาพที่ดี

ด้านของประเทศไทย ตลาดหุ้น 3 วันที่ผ่านมา การจัดตั้งรัฐบาลมีความไม่แน่นอนและสร้างความสับสนจากการที่เห็นพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง แล้วรวมเสียงได้ประมาณ 310 เสียง ตลาดหลักทรัพย์ก็ยังไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดนั้นจะพอกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากต้องลงมติจากเสียงของสว.อีกครั้งหนึ่ง โดยล่าสุดนั้นมีพัฒนาการบวก คือ มีการหารือกันอย่างเป็นทางการของพรรคร่วม และดูเหมือนส.ส.บางพรรคจะมีการหารือกัน ก็อาจจะโหวตให้พรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับส.ว.ที่มีท่าทีว่าต้องการสนับสนุนพรรคก้าวไกล ซึ่งสามารถคาดคะเนผลลัพธ์ได้ว่าพรรคก้าวไกลนั้นจะได้จัดตั้งรัฐบาล

รวมไปถึงการจัดแถลงการณ์ร่วมกันภายในวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ก็มีการคาดคะเนถึงกระแสว่า การจัดสรรกระทรวงของตัวรัฐบาลในเบื้องต้นของพรรคเพื่อไทยว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะดูแลในเรื่องของด้านเศรษฐกิจ และด้านความมั่นคง อาจจะเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่เข้ามาบริหาร ในส่วนนี้ก็อาจจะทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ให้แนวรับ 1,511-1,500 จุด

กรภัทร กล่าวอีกว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์มาก เนื่องจากทางตลาดต้องการความชัดเจน ไม่ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลพรรคไหนคู่กับพรรคไหน แต่ว่าเรามองเห็นถึงการแก้ไขปัญหา คือ ขั้นแรก หากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล จะส่งผลถึงความเป็นไปได้ ความใกล้เคียงเพิ่มมากยิ่งขึ้น และมันก็มีเฟด 2 เฟด 3 ที่อาจจะเดินหน้าต่อไม่ไหว เช่น หากทางพรรคก้าวไกลไม่ถูกโหวตให้จัดตั้งรัฐบาล ในท้ายที่สุดจริงๆ พรรคที่ 2 อาจจะต้องมีการรวมสิทธิกันเข้ามาอีกรอบหนึ่ง

โดยในภาพรวมที่นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ได้ประเมินกัน คือ ความเสี่ยงของการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายปี 2567 จะมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าดูตามกำหนดการณ์จะมีการจัดตั้งรัฐลบาลที่แน่นอนในช่วงปลายๆเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ตามกำหนดการณ์เดิมที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ยังมีความเป็นไปได้สูง แต่ขอให้มีการแก้ไขปัญหาว่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร เพราะตรงนี้จะเป็นการจุดเซนติเม้นต์ตลาดขึ้นมา ในขณะนี้ภาพรวมของตลาดจะค่อย ๆ ติดตามเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ในท้ายที่สุดก็จะเห็นภาพการฟื้นตัวของตลาดขึ้นมา

อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า ภาพรวมของตลาดนั้นไม่ได้เกิดความย้อนแย้ง อย่างแรกนั้นเพียงแต่ว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ไหม เรื่องฟอร์มได้หรือไม่ได้เป็นความไม่แน่นอนแล้วส่วนนึง อย่างที่สองคือตลาดเองจะมองความเสี่ยงก่อน ว่านโยบายของทางพรรคก้าวไกลที่เอ่ยมามีบางประเด็นที่กระทบต่อตัวหุ้นขนาดใหญ่ไหม โดยมีเรื่องการส่งเสริมของทุนขนาดใหญ่ ก็ทำให้หุ้นขนาดใหญ่มีการพักตัวลงมา หรือมีนโยบายที่จัดทำเร่งด่วน เช่น การลดค่าไฟ เมื่อเรามาประเมินในภาพรวมจริง ๆ จะเห็นว่าการลดค่า FT จำนวน 0.7 บาทต่อหน่วย  จะกระทบเฉพาะของตัวหุ้น GPSC และ BGRIM ซึ่งกระทบแค่ประมาณ 0.6-1% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตขั้นพื้นฐาน และทางพรรคก้าวไกลก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าโปรเจ็คต์ต่าง ๆ ที่ขึ้นไปแล้ว ก็ไม่สามารถมารื้ออะไรได้ เพราะเป็นการวางกรอบในอนาคต คุณภาพใน1-2 ปีข้างหน้าก็คงไม่ได้แปรเปลี่ยน

อย่างไรก็ดีนักลงทุนต้องมาดูอีกว่าเมื่อมีการปรับพอร์ต ปรับความเสี่ยงแล้ว นโนบายของทางก้าวไกลและเพื่อไทย มีสิ่งที่เหมือนกันก็คือการมุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ รัฐสวัสดิการเล็ก ๆ ที่จะสนับสนุนการแข่งขันให้เกิดขึ้น ในส่วนของนโยบายที่แตกต่างกันนั้นต่างก็มีคะแนนเสียงที่ใกล้เคียงกัน ต้องมาดูผลลัพธ์ของคะแนนเสียงอีกครั้งหนึ่ง บวกกับการปรับกระแสข่าวสุดว่า กระทรวงเศรษฐกิจโดยรวมอาจจะโหวตมาฝั่งพรรคเพื่อไทย อาจจะคลายแรงกดดันลง กล่าวได้ว่าภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์นั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลในการที่จะลดความเสี่ยงก่อน เมื่อผลลัพธ์ชัดขึ้น สถานการณ์น่าจะดีขึ้นตามมา

กรภัทรกล่าวทิ้งท้ายว่า ตลาดหลักทรัพย์จะต้องจับตามองว่าพรรคก้าวไกลจะได้จัดตั้งรัฐบาลไหม ซึ่งมีพัฒนาการว่าใกล้เคียงมากขึ้น อย่างเช่นการขาดเสียงสนับสนุนการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจาก 70 เสียง ถูกลดลงเหลือ 60 เสียงแล้ว เป็นภาพที่มีพัฒนาการบวกเข้ามา ต้องคอยติดตามเรื่องนี้ต่อว่าได้หรือไม่ได้ ถ้าพรรคก้าวไกลได้ถูกเลือกให้จัดตั้งรัฐบาลจริง ๆ ตลาดก็จะพลิกกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในตอนนี้ โดยภาพรวมเซนติเม้นต์นั้นเป็นบวก ตลาดจะรีบาวดน์ขึ้นมาก่อน หุ้นขนาดใหญ่อย่าง GULF ก็จะมีการฟื้นตัวในวันนี้ และ หุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบในก่อนหน้านี้ด้วย อีกทั้งยังแนะว่า GULF และ KBANK เป็นหุ้นที่น่าลงทุนในวันนี้เนื่องจากการรีบาวดน์ของ GULF ในเชิงพื้นฐานนั้นไม่ได้รับผลกระทบ โดยมีการปรับตัวมาแถวๆ 49.75-50.50 บาท อาจจะพอคาดหวังได้ ส่วนตัว KBANK ให้แนวต้านบริเวณ 138-140 บาท

Back to top button