คณิตศาสตร์การเมืองและหมู่บ้านโปจอมกิน
อุปสรรคอย่างหนึ่งของพรรคก้าวไกลคือแนวร่วมอนุรักษนิยมที่มีตัวแทนส.ว.เป็นอุปสรรคขัดขวาง ทำให้แนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลลำบากยิ่งขึ้น
ดังได้กล่าวเมื่อวันก่อนว่าอุปสรรคอย่างหนึ่งของพรรคก้าวไกลคือแนวร่วมอนุรักษนิยมที่มีตัวแทนส.ว.อุปสรรคขัดขวางทำให้แนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลลำบากยิ่งขึ้น ล่าสุดการที่ส.ว.บางคนออกมาพูดชี้นำว่าไม่ไว้วางใจพิธาและพวกเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ของกฎหมายอาญาว่าจะเป็นการก้าวล่วงสถาบัน มีคนเสนอสูตรคณิตศาสตร์การเมืองใหม่ที่ตัดพรรคก้าวไกลออกไปรวมเสียงแล้วส.ว.ยอมรับได้ ก็ถือเป็นแนวโน้มใหม่ของการเมืองไทย ที่เสียงข้างน้อยได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกันโดยไม่คำนึงถึงเสียงของประชาชนที่เข้าคูหาเลือกตั้ง
หากเป็นในทางนี้จริงอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์หมู่บ้านโปจอมกินที่กลายเป็นตำนานโด่งดังในประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
หมู่บ้านโปจอมกินเอามาจากชื่อของนายพลที่เป็นชู้รักของพระนางแคทเธอรีนแห่งรัสเซียที่ได้รับมอบหมายให้ย้ายคนมาสร้างถิ่นสร้างเส้นทางรอบแม่น้ำ Dnipro และจนกระทั่งสงครามรัสเซียออตโตมันเกิดขึ้น
จักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 ทรงต้องการสร้างความประทับใจให้กับพันธมิตรของรัสเซีย ด้วยการเสด็จไปยังไครเมียในปี พ.ศ. 2330
นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่เห็นพ้องต้องกันว่าแม้เรื่องราวของหมู่บ้านเคลื่อนที่นี้เกินความจริงแต่เรื่องราว ดั้งเดิมคือ เรื่องราวที่ปฏิเสธไม่ได้นายพลโปจอมกินสร้างเรื่องราวหลอกลวงระหว่างประเทศขึ้นมาโดยสร้างการตั้งถิ่นฐานแบบพกพาปลอมขึ้นริมฝั่งแม่น้ำ Dnipro เพื่อสร้างความประทับใจให้กับจักรพรรดินีและทูตต่างประเทศได้ร่วมทางกับพระนางรัสเซียและแขกต่างประเทศโดยที่หลังจากพระนางผ่านไปแล้วโครงสร้างหมู่บ้านจอมปลอมนี้ถูกรื้อและย้ายเคลื่อนที่โครงสร้างเหล่านี้จะถูกแยกชิ้นส่วนหลังจากที่พระนางจากไป
โครงสร้างที่ถูกรื้อเก่านี้จะถูกประกอบขึ้นมาใหม่และประกอบใหม่ให้ไกลออกไปตามเส้นทางของเธอ เพื่อให้นายพลโปจอมกินสร้างภาพความสำเร็จของการทำให้ชาวรัสเซียตั้งถิ่นฐานทางตอนใต้เป็นไปด้วยดี
หมู่บ้านของโปจอมกินที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะเริ่มงานทันทีเมื่อเรือที่บรรทุกจักรพรรดินีและทูตมาถึง คนของโปจอมกิน ซึ่งแต่งตัวเป็นชาวนาก็จะเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เมื่อเรือออกไป หมู่บ้านก็แยกชิ้นส่วนในชั่วข้ามคืน
ประวัติศาสตร์ของพฤติกรรมผักชีโรยหน้าของหมู่บ้านโปจอมกินว่าด้วยเรื่องของการตั้งถิ่นฐานปลอมที่ซับซ้อน ด้วยไฟเรืองแสงที่ออกแบบมาเพื่อปลอบประโลมพระมหากษัตริย์และผู้ติดตามของเธอขณะที่พวกเขาสำรวจดินแดนที่แห้งแล้งในตอนกลางคืนนั้น กลายเป็นตำนานการหลอกลวงว่าการก่อสร้างใด ๆ (ตามตัวอักษรหรือเป็นรูปเป็นร่าง) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือการสร้างส่วนหน้าภายนอกให้กับประเทศที่มีฐานะยากจน ทำให้ผู้คนเชื่อว่าประเทศนั้น กำลังดีขึ้น
แนวร่วมอนุรักษนิยมนี้ รวมทั้งกองทัพไทยที่พยายามสร้างเรื่องราวเพื่อสร้างการกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลนั้นต้องการโค่นล้มสถาบันจึงเปรียบได้กับการสร้างหมู่บ้านโปจอมกิน เพื่อหาประโยชน์ส่วนตนถ่ายเดียว
เสมือนหนึ่งว่าสังคมไทยยามนี้นั้นไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย
ทั้ง ๆ ที่หากอ่านประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้ ที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหมู่บ้านโปจอมกินคือ ต้นเหตุที่ทำให้พระจักรพรรดินี เสื่อมในเสน่ห์เชิงชู้สาวนี้จนเขาตกกระป๋องไปเลยในเวลาถัดมา