MINT มั่นใจ Q2 สดใส โรงแรม-ร้านอาหารฟื้น ย้ำหมุดรายได้ปีนี้โต 15%
MINT มั่นใจไตรมาส 2/66 ผลงานสดใส รับธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหารฟื้นตัวทั่วโลก หลังไตรมาส 1/66 รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน สูงกว่าช่วงก่อนโควิดแล้ว ย้ำเป้ารายได้ 3 ปีโตเฉลี่ย 12-15% เดินหน้าเปิดโรงแรม-ร้านอาหารเพิ่ม รองรับยอดนักท่องเที่ยวกลับมา
นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 18 พ.ค.2566 ว่า ในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 976 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้น 74% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 3,794 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจาก “ไมเนอร์ โฮเทล” มีผลขาดทุนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสดังกล่าว ในขณะที่ “ไมเนอร์ ฟู้ด” มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 32,478 ล้านบาท เติบโต 57% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็นผลมาจากความต้องการในการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนลูกค้าในร้านอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดีแม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/66 จะเป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจในฝั่งยุโรป แต่มองว่าในช่วงที่เหลือต่อจากนี้จะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่เห็นถึงการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างมาก ส่งผลให้สามารถปรับราคาห้องพักขึ้นได้ โดยในช่วงเดือนเม.ย.66 ที่ผ่านมา โรงแรมในยุโรปมีอัตราเข้าพัก (OCC) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 70% และอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPar) เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว 30% ส่วนโรงแรมในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน จากการเปิดประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
รวมถึงธุรกิจร้านอาหารยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน จากการฟื้นตัวของการบริโภคหลังจากมีการเปิดประเทศ ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในประเทศไทยมีการได้มีการปรับแบรนด์ ภาพลักษณ์ รวมถึงเมนูให้ดึงดูดลูกค้าเข้ามามากขึ้น เช่น Swensen’s Sizzler และ Bonchon เป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานเติบโตเฉลี่ย 12-15% ต่อปี (CAGR) สำหรับกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโต ประกอบด้วย 1.ขยายธุรกิจในเครืออย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจโรงแรม และธุรกิจร้านอาหาร ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก 2. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่ดี 3.ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน 4. นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 5.พัฒนาบุคลากรในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และ 6. เดินหน้าตามแผนการดำเนินงานอย่างยั่งยืน
ขณะที่ในปี 2568 ตั้งเป้าเปิดให้บริการโรงแรมกว่า 600 แห่ง และร้านอาหารกว่า 3,400 สาขา จากปัจจุบัน 2,000 สาขา