GUNKUL ย้ำรายได้ปีนี้โต 15% แย้มชิงเค้ก “พลังงานหมุนเวียน” ก้อนใหญ่เวียดนาม 1.5 แสนเมกฯ  

GUNKUL ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 15% หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 5 พันล้านบาท พร้อมตั้งงบลงทุนปี 66-71 วงเงิน 4 หมื่นล้าน รุกขยายโซลาร์-วินฟาร์มเต๊มสูบ แย้มลุยชิงเค้ก “พลังงานหมุนเวียน” ก้อนใหญ่เวียดนาม รับแผน PDP ใหม่ 1.5 แสนเมกฯ เล็งดัน"กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" เข้าตลาด Q4/66


ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่าเปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 22 พ.ค. 2566 เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 (ม.ค.- มี.ค.66) บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,913.06 ล้านบาท ส่งผลให้ไตรมาส 1/66 มีกำไรสุทธิจำนวน 455.80 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มธุรกิจปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังจากบริษัทฯได้ชนะการประมูลมาทั้งหมด 17 โครงการ รวม 832.60 เมกะวัตต์ โดยแบ่งประเภท เชื้อเพลิงสำหรับพลังงานลม (วินฟาร์ม) จำนวน 2 โครงการ รวม 180 เมกะวัตต์ และประเภทเชื้อเพลิงสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) จำนวน 12 โครงการ รวม 569 เมกะวัตต์ และสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานจำนวน 3 โครงการ รวม 83.6 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะรองรับการเติบโตธุรกิจไปต่อได้ใน 5-7 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้บริษัทฯมีเป้าหมายการเติบโตทั้งด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านการบริการก่อสร้างครบวงจร โดยบริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตในปี 66 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องกว่า 10 ปีของบริษัทฯ (นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

ขณะเดียวกันบริษัทวางเป้ารายได้เติบโตภายใน 5-7 ปี(65-73) แตะระดับ 12,414 ล้านบาท เติบโต 64% จากปี 65 อยู่ที่ระดับ 7,566 บาท หรือเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี นอกจากนี้ตั้งเป้า EBITDA ภายใน 5-7 ปี เติบโตประมาณ 138% แตะระดับ 7,224 ล้านบาท จากปี 65 อยู่ที่ระดับ 3,032 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(Backlog) ประมาณ 5,000 ล้านบาท อาทิ งานเคเบิล(Underground Cable) ประมาณ 1,800 ล้านบาท,งาน TPI: Solar farm 61 MW และ Transmission Line 22 KV ประมาณ 1,850 ล้านบาท, งานรับทำให้เอกชนโชลาร์รูฟและอื่นๆ 600 ล้านบาท,งาน Substation ประมาณ 600 ล้านบาท,งานปรับปรุงสถานีย่อยประมาณ 100 ล้านบาท,งานกลุ่ม AIS ราว 100 ล้านบาท ซึ่งจะมาเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตช่วงปี 66-68

ขณะเดียวกันตั้งบลงทุนในปี 66-71 ประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน อาทิ กลุ่ม JV สัดส่วน 50% ราว 1,000 เมกะวัตต์ ประมาณ 22,000 ล้านบาท,ธุรกิจโซลาร์และพลังงานลมในส่วนของบริษัทราว 400-500 เมกะวัตต์ มูลค่าราว 15,000 ล้านบาท, ธุรกิจกัญชง-กัญชา ราว 2,000 ล้านบาท และลงทุนในกลุ่ม Innovation ราว 1,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยคาดว่าลงทุนปีละ 5,000 ล้านบาท

ด้านความคืบหน้าในการ Spin-Off บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์(GPD) ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยมองว่าในครึ่งปีแรกจะยืนไฟล์ลิง และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดช่วงไตรมาส 4/66

ส่วนกรณีรัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP8) (ปี 64-73) ฉบับใหม่กำลังผลิตเป็น 150,489 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 73 ภายใต้วิสัยทัศน์ net zero carbon ปี 93 บริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จากครั้ง โดยล่าสุดบริษัทได้ไปเจรจาเพื่อขอซื้อโรงไฟฟ้ากำลัง COD เพื่อให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และเพื่อไปเจรจาหาพันมิตรเพิ่มเติมเพื่อรองรับในการเข้าร่วมชิงพลังงานหมุนเวียนฉบับใหม่

Back to top button