“ก้าวไกล” ย้ำรอบ 3 ต้องการตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร”
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงย้ำชัด ต้องได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันกฎหมายสำคัญที่หาเสียงเอาไว้ เผย ส.ว.มีความเข้าใจมากขึ้น พร้อมโหวตให้ “พิธา” เป็นนายก
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลหลังลงนามใน MOU เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุ ได้รับการตอบรับในเชิงบวกทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาลและประชาชน หลังมีความชัดเจนในเรื่องจุดยืนและนโยบายของพรรค ทาง ส.ว.มีความเข้าใจมากขึ้น และยอมรับในหลักการที่จะโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี มากขึ้น แต่ยังคงเดินหน้าเจรจากับ ส.ว.เป็นรายบุคคลมากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอที่จะโหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ
ส่วนโควตาตำแหน่งประธานสภา น.ส.ศิริกัญญา ย้ำว่า พรรคก้าวไกลมีความจำเป็นที่ต้องมีตำแหน่งนี้ไว้กับพรรคก้าวไกล เพราะนอกจากการใช้อำนาจฝ่ายบริหารแล้ว ยังมีอีก 3 วาระที่จะต้องได้ตำแหน่งประมุขในฝ่านนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน ทั้งผลักดันกฎหมายทั้ง 45 ฉบับของพรรค เพื่อให้ทำตามที่หาเสียงไว้ และกฎหมายของพรรคการเมืองอื่น และกฎหมายจากประชาชน เพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจำเป็นต้องมีตำแหน่งประธานสภาไว้กับพรรคก้าวไกล
“ทั้งนี้ สำหรับบุคคลที่จะทำหน้าที่ประธานสภา ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว เชื่อว่าหลายคนมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ยังไม่ได้มีการตกลงกัน ส่วนกรณีที่ถูกตั้งคำถามเรื่องอายุน้อย หรือความอาวุโสนั้น เห็นว่าควรต้องให้โอกาส ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ยาก” น.ส.ศิริกัญญา
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะอยู่ร่วมตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ ยืนยัน พรรคก้าวไกลไม่แทงข้างหลังเพื่อน เพราะสองพรรคสื่อสารกันตรงไปตรงมา