MSCI ดันวอลุ่ม

เมื่อวานนี้มูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 9.06 หมื่นล้านบาท

หรือเป็นวอลุ่มเทรดสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน

วอลุ่มที่พุ่งพรวดขึ้น มาจาก MSCI Rebalance ตลาดหุ้นไทย และมีผล ณ ราคาปิดของวันที่ 31 พ.ค. 66

ประเมินในเบื้องต้น

เม็ดเงินที่เข้ามาของ MSCI น่าจะอยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากวอลุ่มเทรด 9 หมื่นล้านบาท

หุ้นที่มีเม็ดเงินเข้ามามากสุดคือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO

พบว่า ในช่วง ATC มีออเดอร์หุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ที่ราคาปิด 40.50 บาท จำนวน 156 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินประมาณ 6,318 ล้านบาท

สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นที่เข้าออก MSCI

นอกเหนือจาก MAKRO ที่ได้เข้า MSCI Global Standard นั้น

หุ้นไทยที่ถูกคัดออกจาก MSCI Global Standard คือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU

ส่วน MSCI Global Small Cap

มีหุ้นไทยที่ถูกคัดเข้า คือ JMT, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR

บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE

บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB

และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU

หุ้น JMT แม้จะถูกปรับออกมาจาก MSCI Global Standard แต่ก็ได้เข้ามาอยู่ใน MSCI Global Small Cap

ทำให้หุ้น JMT มีออเดอร์เข้ามาช่วง ATC หรือ ณ ราคาปิดจำนวน 50 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 43.00 บาท

หรือคิดเป็นเงิน 2,150 บาท

ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายหุ้น JMT ขึ้นมาอยู่ที่ 2,923.8 ล้านบาท ขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของหุ้นที่มีวอลุ่มเทรดสูงสุด

ส่วน MAKRO อยู่อันดับหนึ่งด้วยมูลค่าเทรด 7,883.2 ล้านบาท

สำหรับ JMT เมื่อวานนี้ ยังได้แรงหนุนจาก บล.เกียรตินาคินภัทร ปรับราคาเป้าหมายใหม่ขึ้นมาอยู่ที่ 81.00 บาท ทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไรตลอดทั้งวัน

ส่วนหุ้นตัวอื่นที่ได้เข้า MSCI และน่าสนใจคือ บมจ.เงินติดล้อ หรือ TIDLOR

มีการซื้อขาย ณ ราคาปิดจำนวน 23.9 ล้านหุ้น ที่ราคา 27.75 บาท คิดเป็นเงิน 663 ล้านบาท 

และเมื่อรวมมูลค่าเทรดระหว่างวัน ทำให้มูลค่าซื้อขายเงินติดล้อวานนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 1,268.1 ล้านบาท

ส่วนราคาปิดที่ 27.75 บาท ถือว่าเป็นราคากระโดดขึ้นมาในช่วงก่อน ATC โดยราคาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 27.00-27.25 บาทต่อหุ้น

SAPPE ที่ได้เข้า MSCI Global Small Cap ก็น่าสนใจ

เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นยกตัวมาตลอด

จากต้นเดือน พ.ค. 66 ราคายังอยู่ที่ 60.00 บาท แต่วันก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่ 81.50 บาท บวกขึ้นมา 35%

เมื่อวานนี้มีการเข้ามาเก็งกำไรทั้งวัน ราคาถูกดันขึ้นไปสูงสุด 85.25 บาท

ก่อนจะมาปิดที่ 84.75 บาท +3.99% 

โดยมีออเดอร์เข้ามาในช่วง ATC ประมาณ 1.97 ล้านหุ้น (ที่ราคา 84.75 บาท) คิดเป็นเงิน 167.3 ล้านบาท

ส่วน TU ถูกลากลงมาปิดในแดนลบ

ขณะที่ SISB ราคาถูกกระชากขึ้นมาช่วง ATC และมาปิดที่ 39.75 บาท (ก่อน ATC 38.50-38.75 บาท) โดยมีจำนวนหุ้นที่เข้ามาซื้อช่วง ATC 4.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 180 ล้านบาท

แนวโน้มวันนี้หลังหมด MSCI

ตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วล่ะ

วอลุ่มเทรดน่าจะลงมาอยู่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท +/- นั่นแหละ