“กรภัทร” แนะเก็งกำไรหุ้น “ขนาดกลาง-เล็ก” ชูท็อปพิกวันนี้ TOA-WHA-ICHI

นายกรภัทร วรเชษฐ์ แนะ 3 หุ้นท็อปพิกวันนี้ TOA-WHA-ICHI พร้อมแนะจับตาการเมืองไทย เพราะมีผลต่อตลาดหลักทรัพย์


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS กล่าวในรายการสด “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ณ วันที่ 1 มิ.ย. 66 ว่า ปัจจัยด้านตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ในประเทศอื่นๆ เป็นบวกแล้ว เนื่องจากเรื่องเพดานหนี้ได้ผ่านกระบวนการในสภาร่างแล้ว

โดยทั้งการโหวตขั้นต้นและการโหวตในขั้นสุดท้าย เมื่อสักประมาณเวลา 8:20 น. ที่ผ่านมา เหลือแค่กระบวนการของสว. โดยสว.จะเข้ามติภายในวันที่ 2 มิ.ย. 66 นี้ ซึ่งมองโดยภาพรวมแล้วถือว่าผ่านได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นบวก เราจะเห็นได้ว่าบ.นิวสหรัฐลง ค่าเงินดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า ค่าเงินเอเชียกลับมาแข็งค่าบ้าง เพราะฉะนั้นตลาดหลักทรัพย์ของเอเชียวันนี้จะมีการรีบาวด์

ด้านของเรื่องการเมืองในประเทศไทยนั้น นายกรภัทรกล่าวว่า ประเด็นไม่ได้มีอะไรมากมาย เราจะเห็นได้จากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าไปหารือกับฝั่งของการค้า ซึ่งถือว่ามีภาพโดยรวมเป็นบวก ส่วนในเรื่องของคดีความการฟ้องร้องของพิธาที่จะขาดคุณสมบัติของผู้สมัครหรือไม่ ตรงนี้เราก็ยังไม่แน่ใจ ฉะนั้นภาพรวมแล้ว เรื่องการเมืองจะเป็นตัวฉุดตลาดหุ้นลงมาบ้าง โดยประเทศไทยก็อาจจะเป็นภาพรวมที่สลายตัวโฟกัสที่หุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือหุ้นที่อิงจาก GLOBAL PLAY ในส่วนไหนที่มีการฟื้นตัวและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง คาดว่าอาจจะไปได้อยู่  ในส่วนของตัว SET เองจะมีการฟื้นตัวระยะสั้น กรอบแนวต้านจะอยู่ที่ 1,545 จุด คาดว่าไม่เกินนี้ และแนวรับจะครองตัวได้อยู่ที่ 1,520 จุด ตรงนี้ก็จะเป็นพัฒนาการภาพบวกของเพดานหนี้

นายกรภัทรกล่าวอีกว่า วานนี้เป็น MSCI rebalance เราจะเห็นว่า volume มาเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท แต่ว่าหากเอา MSCI จริง ๆ เพิ่มน้ำหนักที่หุ้นไทย สักประมาณ 10-20 ล้านเหรียญ หากตีค่าประมาณเป็นเลขกลม ๆ แล้ว นักลงทุนต่างชาติที่ไม่ใช่นักลงทุน MSCI จะอยู่ประมาณสัก 2,500 ล้านบาท โดยตัวตลาดนั้นคาดการณ์การเก็งกำไรว่าในช่วงท้ายจะมีการฟื้นตัว เพราะตะกร้าของ MSCI นั้นเพิ่มน้ำหนักมา ถ้า SET ไม่มีแรงหนุน จะมีสัญญาณ reversal ในปลายเดือนโครงสร้างของ SET เราเล่นเป็นขาปรับ และเส้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหลักอยู่ที่ 1,544 จุด แต่ว่าในทาง Frame day เองมีสัญญาณ reversal  หน่อย ๆ ก็คือยังมีการยก low ในสัญญาณของการกลับตัว

เพราะฉะนั้นในระยะสั้น ภายในอาทิตย์หน้า ต้องดัชนีอาจรีบกลับไปให้เหนือระดับ 1,644 จุด ถ้ากลับไปเหนือได้ จะสร้างความเบาใจให้กับนักลงทุนว่าตัวตลาดจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นหรือเปล่า ถ้าหากเรามองไปข้างหน้าจริง ๆ นั้น เรื่องของการเมืองเป็นเรื่องของกำหนดการณ์ที่จะมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นยิ่งเวลาผ่านไป ความชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของการจัดตั้งรัฐบาลก็จะเกิดขึ้นว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

อย่างไรก็ตามในภาพรวมแล้วแนะว่าอยากให้พยายามใช้กับตัว Relationship พื้นฐาน ว่า SET นั้นเหวี่ยงอยู่ในกรอบสักประมาณ 1,520 จุด บวกลบ ซึ่งเป็นโอกาสในการซื้อ ส่วน Down side ลึก ๆ จะอยู่ลิมิต 1,480 จุด โดยไม่น่าจะลึกกว่านั้น ส่วนการฟื้นตัวของ SET เอง จะมีแนวต้านที่ 1,578-1,590 จุด โดยโอกาสการฟื้นตัวของ SET ในเดือนนี้จะเป็นการปรับตัวลงไปแรง ๆ

ส่วนหุ้นที่น่าเก็งกำไร ถ้ามองในระดับเดือนจะมองว่าหุ้นที่น่าสนใจเป็นหุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็ก หุ้นที่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของการเมืองหรือนโยบายของว่าที่รัฐบาลใหม่ แล้วน่าจะหนุนในเรื่องการเติบโตด้วย สำหรับหุ้นแนะนำ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO โดยเพิ่งจะเข้า MSCI ไป อีกทั้งมีแนวทางของรายได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จากราคาหมู และราคาไก่เริ่มฟื้น ขณะที่ต้นทุนไฟฟ้าก็เริ่มลง

ขณะที่ธุรกิจกลุ่มฐานรากจะเป็นพวกบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA พวกนี้จะได้ประโยชน์จากฐานรากที่อาจไม่ค่อยแข็งแรงขึ้นมา

หุ้นที่มีการเปิดตัวสูงและ earning มีคุณภาพ เป็นกลุ่มดิจิตอลที่รัฐบาลหนุน หุ้นเทค และหุ้นดิจิตอลนั้นเริ่มพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ และในตัวของสินค้าส่งออก วานนี้แบงก์ชาติมีเรื่องชัดเจนคือเค้ามองไตมาสครึ่งหลัง ประเทศไทยจะดีขึ้น จากที่แบงก์ชาติมองว่า -0.7 ก็มองว่าครึ่งหลังทั้งปีจะ -0.1 ดังนั้นให้จับตาดูหุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA

นอกจากนี้มีตัวที่เป็น SET Safety play คือบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA แต่ถ้าเลือกตัวที่สุดในวันนี้เป็น บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA,  บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI

Back to top button