ปัจจัยลบราคาน้ำมัน-เฟดขึ้นดอกเบี้ยSET บ่ายซึมต่อ มีแนวรับ 1,287 จุด

SET เช้านี้ซบเซา แต่วอลุ่มดีกว่าคาดการณ์ไว้ โดยตลาดมีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่ม ICT ที่กดดันต่อภาพรวมการลงทุน ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวไปในทิศทางลบ ช่วงบ่ายคาดดัชนีน่าจะไม่ต่างจากช่วงเช้า ให้กรอบแนวรับ 1,287 จุด แนวต้าน 1,307 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (11 ธ.ค.) ซบเซาต่อเนื่อง ขณะที่วอลุ่มถือว่าดีเกินที่คาดการณ์เอาไว้ โดยภาพรวมยังมีแรงกดดันจากหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับตัวลดลง และกลุ่ม ICT ที่เข้าใกล้วันประมูลคลื่น 900 MHz ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ 

ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น และเวียดนามที่สามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ ทั้งนี้ คาดเป็นผลมาจากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย และราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้า โดยมีกรอบแนวรับ 1,287 จุด ส่วนแนวต้า น 1,307 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึง ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซบเซาต่อเนื่อง โดยตลาดยังคงอยู่ในแดนลบตลอดช่วงเช้า แต่เมื่อมองวอลุ่มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้หรืออยู่ในระดับกลางๆ เหมือนเช่นทุกวัน จากที่ประเมินว่าวอลุ่มอาจจะเบาบางลง

ขณะที่ภาพโดยรวมมีแรงกดดันของหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง และกลุ่ม ICT ที่ใกล้วันประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.58 ซึ่งกดดันต่อภาพรวมของตลาด และมองว่าหากดัชนีฟื้นตัวได้แต่อาจจะไปได้ไม่ไกล          

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ นอกจากตลาดหุ้นญี่ปุ่น และเวียดนาม ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ซึ่งปัจจัยหลักคงเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ทำให้ส่งผลกดดันต่อตลาดต่างประเทศและตลาดหุ้นไทยด้วย

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่ายนี้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวไม่ต่างไปจากช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,287 จุด แนวต้าน 1,307 จุด

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ ( 11 ธ.ค. ) SET ช่วงเช้าปิดลบ ขณะที่ตลาดภูมิภาคยังอ่อนตัวแม้ว่าตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐจะดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงติดต่อกันสามวันก็ตาม ในขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงติดตามการหายตัวไปของนายกัว กวางชาง มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท โฟซัน กรุ๊ป ซึ่งราคาหุ้นของโฟซัน อินเตอร์เนชั่นแนล และหุ้นโฟซัน ฟาร์มาซูติคอล ซึ่งซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง จะถูกระงับการซื้อขายตั้งแต่เวลา 9.00 น.ในวันนี้

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เดือนพ.ย.ของเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลง 7% จากช่วงเดียวกันก่อนหลังจาก -1.6% ในเดือนก่อน

ด้านองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Situation and Prospects) ปี 2559 โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 2.9% ในปี 2559 และคาดว่าในปี 2560 เศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 3.2% โดยมีสาเหตุมาจากผลกระทบเชิงโครงสร้างและวัฏจักรทางเศรษฐกิจ ส่วนในปีนี้ ยูเอ็นคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 2.4% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมได้สะดุดลง และรายงานชี้ว่า “ประเทศกำลังพัฒนาคาดว่าจะขยายตัว 4.3% และ 4.8% ในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ”

แนวโน้มภาคบ่ายเชิงเทคนิค ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องสร้างจุดต่ำ ที่ 1,294.41 และการเรียงตัวแท่งเทียนยังคงเป็นแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับเป้าหมาย 1,292-1,290 เป็นแนวรับจุดต่ำรอบที่ผ่านมา จากค่าสัญญาณ RSI ที่อยู่ระดับต่ำมากการแกว่งตัวสร้างฐานราคาหรือกลับตัวขึ้นทางเทคนิค ซื้อเก็งกำไรเมื่อยืนเหนือ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TKN มูลค่าการซื้อขาย 2,228.28 ล้านบาท ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,631.89 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท ลดลง 9.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,320.70 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,100.03 ล้านบาท ปิดที่ 197.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 767.26 ล้านบาท ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button