วิกฤต “ดอกเบี้ย” ขาขึ้น กด GDP ออสเตรเลีย Q1 ต่ำสุดรอบ 1 ปี

GDP ออสเตรเลียไตรมาส 1/66 โตเพียง 2.3% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งเป้นผลมาจากแรงกดดันดอกเบี้ยและตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง


สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 ขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะขยายตัว 2.4% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 4/2565 ที่มีการขยายตัว 2.7%

ทั้งนี้เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของออสเตรเลียขยายตัว 0.2% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 0.3%

นางแคเธอร์รีน คีแนน ผู้อำนวยการ ABS กล่าวว่า แม้ว่าตัวเลข GDP ในไตรมาส 1 ของออสเตรเลียมีการขยายตัวติดต่อกัน 6 ไตรมาส แต่ก็เป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2564

ทั้งนี้เศรษฐกิจออสเตรเลียได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.10% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า RBA จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับ 3.85%

ขณะที่ นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA กล่าวว่า แม้ว่าเงินเฟ้อของออสเตรเลียอาจจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ยังมีข้อมูลต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ของออสเตรเลียปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์  เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงและที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ จะยังคงสร้างแรงกดดันให้กับ RBA

ทั้งนี้ ABS ระบุว่า ดัชนี CPI เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวรวดเร็วกว่าในเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 6.3% และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.4% และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ของออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.8%

Back to top button