“นิด้าโพล” ชี้เจ้าของรถบรรทุก 75% ยินดีจ่าย “ส่วยสติ๊กเกอร์” หวังลดต้นทุน-ขนส่งสะดวก
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" พบ 75.55% เจ้าของรถบรรทุกส่วนใหญ่ยินดีจ่าย หวังลดต้นทุนขนส่งและต้องการความสะดวกกิจการ
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ส่วยสติกเกอร์ รถบรรทุก”เกี่ยวกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องการบรรทุกน้ำหนักของรถบรรทุก พบว่าตัวอย่าง 82.90% ระบุว่า ส่วนใหญ่มีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด รองลงมา 11.45% ระบุว่า ส่วนใหญ่มีการบรรทุกไม่เกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด และ 5.65% ระบุว่า ไม่มั่นใจ
เมื่อถามความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่า ส่วนใหญ่มีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด และผู้ที่ระบุว่าไม่มั่นใจ (จำนวน 1,160 หน่วยตัวอย่าง) ถึงสาเหตุที่ทำให้รถบรรทุกมีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด พบว่า ตัวอย่าง 73.36% ระบุว่า เพื่อลดต้นทุน ค่าขนส่ง รองลงมา 63.19% ระบุว่า เพื่อเพิ่มกำไรในธุรกิจขนส่ง 27.07% ระบุว่า ขนาดน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดไม่สะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบัน และร้อยละ 0.09 ระบุว่า ไม่ตอบ ไม่ทราบ และไม่สนใจ
สำหรับความเชื่อของประชาชนต่อข่าวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พบว่า ตัวอย่าง 60.76% ระบุว่า เชื่อมาก รองลงมา 25.34% ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ 10.08% ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ 3.44% ระบุว่า ไม่เชื่อเลย และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ตอบ ไม่ทราบ และไม่สนใจ
เมื่อถามผู้ที่ระบุว่า เชื่อมาก ค่อนข้างเชื่อเกี่ยวกับข่าวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก และไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ (จำนวน 1,133 หน่วยตัวอย่าง) ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พบว่า ตัวอย่าง 75.55% ระบุว่า เจ้าของรถบรรทุกยินดีจ่ายเพื่อความสะดวกในการดำเนินกิจการรองลงมา 75.11% ระบุว่า ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องการหาผลประโยชน์ 26.13% ระบุว่า ขนาดน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดไม่สะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบัน และ 0.35% ระบุว่า ไม่ตอบ ไม่ทราบ และไม่สนใจท้ายที่สุด
เมื่อถามผู้ที่ระบุว่า เชื่อมาก ค่อนข้างเชื่อเกี่ยวกับข่าวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ไม่ตอบ ไม่ทราบ และไม่สนใจ (จำนวน 1,133หน่วยตัวอย่าง) ถึงความเชื่อของประชาชนว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกได้จริง พบว่า ตัวอย่าง 30.36% ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ รองลงมา 27.80% ระบุว่า ไม่เชื่อเลย 23.66% ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ 17.83% ระบุว่า เชื่อมาก และ 0.35% ระบุว่า ไม่ตอบ ไม่ทราบ และไม่สนใจ
ทั้งนี้ “นิด้าโพล” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 6-7 มิถุนายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น จากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น 97%