CHOW ไถ่ถอนหุ้นกู้เกลี้ยง 1.14 พันล้าน กด D/E เหลือ 0.31 เท่า-คว้างาน PPA โซลาร์ 15 เมกฯ

CHOW ไถ่ถอนหุ้นกู้หมดเกลี้ยง 1.14 พันล้านบาท ส่งผลให้ D/E ลดลงมาอยู่ที่ระดับเพียง 0.31 เท่า ลุยพลังงานทดแทนเต็มสูบ กวาด PPA Solar เข้ามืออีก 15 เมกะวัตต์ หนุนยอดสะสมในมือแตะ 100 เมกะวัตต์ มั่นใจสิ้นปีมียอดทะลุ 150 เมกะวัตต์ตามเป้า


นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่าน บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทย่อย เปิดเผยถึงหุ้นกู้ของบริษัทฯ  ทั้งสองชุด CHOW212A และ CHOW213A มูลค่ารวม 1,140 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนเดือนพฤษภาคม 2566 ว่าขณะนี้หุ้นกู้สองชุดดังกล่าวบริษัทฯ ได้ไถ่ถอนครบแล้วทั้งจำนวนเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net debt to Equity) ลดลงมาอยู่ที่ระดับเพียง 0.31 เท่า เท่านั้น สามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว

โดยหลังจากนี้จะเห็นการเติบโตของธุรกิจในเครือ CHOW อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มพลังงานทดแทนที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รับแรงหนุนมาจากต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และให้ความร่วมมือแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ โดยตั้งเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ net zero โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการส่งออก และภาคเอกชนรายใหญ่จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ

นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่ภาครัฐให้การสนับสนุนทั้งมาตรการด้านภาษีในกลุ่มภาคธุรกิจ และโครงการการรับซื้อไฟฟ้าตามมาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Feed-in Tariff: FiT) อัตรารับซื้ออยู่ที่ 2.20 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปี ในภาคครัวเรือน ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าบนหลังคา หรือ  Solar Rooftop เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในปีนี้ผ่านมา CHOW มีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยกว่า 80 เมกะวัตต์ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ในปีนี้

โดยล่าสุดได้รับงานโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา เพื่อจำหน่ายไฟให้กับลูกค้าแบบ Private PPA  เพิ่มขึ้นอีก 15 เมกะวัตต์จากภาคเอกชนรายใหญ่ ระดับแนวหน้าของประเทศ  ซึ่งเป็นผลมาจากที่บริษัทฯ ได้สร้างผลงานที่มีคุณภาพให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการในประเทศไทย และโครงการในต่างประเทศ

โดยเชื่อว่าปี 2566 จะเป็นอีกปีทองทางธุรกิจของ CHOW จากที่มีฐานทุนแข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทั้งจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ และการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่มีความสามารถเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและ supply chain ที่แข็งแกร่งทำให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ ในราคาที่แข่งขันในตลาดได้อย่างคล่องตัว ซึ่งความพร้อมเหล่านี้จะทำให้ CHOW สามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

Back to top button