รวมหุ้นเสียทรง!

สิ่งที่ “โมนิก้า” รู้สึกเหนื่อยหน่ายสุด ๆ คงเป็นเรื่องของอาการตลาดหุ้นไทยที่มาในลักษณะสวยหรู แต่สุดท้ายก็จอดป้ายเอาดื้อ ๆ


สิ่งที่ “โมนิก้า” รู้สึกเหนื่อยหน่ายสุด ๆ คงเป็นเรื่องของอาการตลาดหุ้นไทยที่มาในลักษณะสวยหรู แต่สุดท้ายก็จอดป้ายเอาดื้อ ๆ จึงถือโอกาสนี้เม้าท์ถึงหุ้นเสียทรงที่กำลังตกเป็นขี้ปากชาวหุ้นกันดีกว่า เพราะดูท่าทางจะคัมแบ็คยากในภาวะที่ตลาดหุ้นตกอยู่ในอาการ “สามวันดี สี่วันไข้” ผนวกกับวอลุ่มการซื้อขายก็เบาบางเหลือเกิน ส่งผลให้ตลาดหุ้นพร้อมจะหักมุมได้ตลอดเวลาน่ะซี

ขนาดหลายคนเชื่อว่า ตลาดหุ้นน่าจะไปต่อ แต่เอาเข้าจริงกลับยืนนิ่ง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,561.15 จุด ลบไป 1.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.68 หมื่นล้านบาท จึงกลายเป็นจังหวะของการอยู่เฉย ๆ และหาจังหวะปล่อยของมากกว่าเข้าไปไล่เก็บของ เพราะการขึ้นเที่ยวนี้ดูเหมือนจะไม่แข็งแรงเอาเสียเลย จึงขอดูเรื่องราวไปทีละช็อตเพื่อความสบายใจ หลังโมเมนตัมของตลาดหุ้นไม่ได้แย่ลงเจ้าค่ะ

น่าเสียดายดันพบว่า ในช่วงที่หลายอย่างกำลังเซ็ตตัวดีขึ้นเป็นลำดับ กลับมีหุ้นบางตัวที่โดนถล่มจนโงหัวไม่ขึ้น พร้อมกับมีเสียงนินทาให้ได้ยินเป็นระยะว่า คนนั้นเป็นอย่างนี้..คนนี้เป็นอย่างนั้น “โมนิก้า” จึงถือโอกาสนี้ไล่เรียงไปทีละช็อต เพื่อทำให้ทุกฝ่ายคลายสงสัย และจะได้รู้ว่า ยุทธการทุบหุ้นเที่ยวนี้มันเป็นผลมาจากการเปิดช่องบางอย่างไว้หรือเปล่า? จึงทำให้พวกเขี้ยวลากดินหาช่องทำเงินระยะสั้นอย่างสบายใจเฉิบนะคะ

โดยรายแรกที่ต้องเอ่ยถึงคงหนีไม่พ้นหุ้น OTO ซึ่งโดนขายหนักตลอดทั้งวัน จนหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 5.50 บาท ลบไป 2.40 บาท หรือลงไป 30.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 221 ล้านบาท พร้อมกับทำฟลอร์สามวันติด และถ้าย้อนกลับไปช่วงปลายเดือนก่อน ก็เพิ่งทำหนึ่งฟลอร์ให้เห็นมาหยก ๆ เดี๊ยนเลยเข้าใจทันทีว่า นี่เป็นเกมที่ผิดปกติอย่างแน่นอน และหนึ่งในตัวการสำคัญก็คงมาจากการแปลงวอร์แรนต์ในราคา 3 บาทต่อหุ้นจำนวนสองร้อยกว่าล้านหุ้น อาเฮียเลยสาดยับชิมิ!

ความไม่สบายใจข้างต้น ทำให้เกิดไฟลามทุ่งไปยังหุ้น SIMAT แบบดิ้นไม่ออก และกลายเป็นหุ้นที่โดนถล่มใส่ไม่ยั้งตลอดทั้งวัน จนหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 1.73 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 13% ด้วยมูลบค่าการซื้อขาย 93 ล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า วงแตกอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะแต่ละฝ่ายเริ่มไม่ไว้ใจในท่าทีที่แสดงออกมา จึงนำไปสู่ข่าวเม้าท์ที่ว่า มันจบแล้วครับนาย!

หุ้นอีกรายที่มีอาการเสียทรงไม่แพ้กัน “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น SA แบบไม่ต้องคิดอะไรเลย เพราะการซึมลงมาเรื่อย ๆ เป็นแรมเดือน จนวานนี้โดนทุบลงไปทำราคาต่ำสุดที่ 5.40 บาท ก่อนจะดันกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.80 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 6.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28 ล้านบาท มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างให้รู้ว่า หมดเวลาฮันนีมูน ต่อจากนี้จะมีแต่ขิงใส่กันนะออเจ้า

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นบันเทิงเริงรำอย่าง ONEE ก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไหร่? เพราะราคาหุ้นไหลลงแบบไม่มีหูรูด ก่อนจะเด้งกลับแบบมีทรงมาระยะหนึ่ง แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมากลับออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 5.55 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่น่าหนักใจสำหรับคนที่คิดจะรับหุ้นเข้าพอร์ต เพราะตัวเลขกำไรยังไม่มาตามนัดน่ะซี

ส่วนหุ้นใหญ่ที่ตกอยู่ในสภาพโรยราเหลือเกิน และไม่รู้จะคัมแบ็คได้เมื่อไหร่ แถมธุรกิจผ่านช่วงพีกไปเป็นที่เรียบร้อย คงต้องชำเลืองไปที่หุ้นโรงพยาบาล CHG แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะการที่หุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ 3.06 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 184 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นจังหวะที่ไม่น่าจะเข้าไปยุ่งเลย! เพราะหลายอย่างมันไม่เอื้อให้เลยพับผ่าสิ!

ตบท้ายกันที่หุ้นว้าว W แต่ราคาหุ้นสุดเหวงกันดีกว่า หลังทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 0.84 บาท ลบไป 0.37 บาท หรือลงไป 30.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 3 ปี 2 เดือน แถมวอลุ่มซื้อขายก็เพิ่งหนาแน่นขึ้นมาผิดปกติแบบนี้ “โมนิก้า” ไม่สามารถตีความเป็นเรื่องอื่นได้เลยจริง ๆ และต้องบอกกันตามตรงว่า ขายหนีตายสถานเดียวกระมัง!..จริงหรือไม่ ลองไปคิดกันดูจ้า

Back to top button