สังคมข่าวหุ้น
ตลาดหุ้น SET ยังรับเซนติเมนต์เชิงลบจากปัจจัยภายในในประเด็นเรื่องการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล
ตลาดหุ้น SET ยังรับเซนติเมนต์เชิงลบจากปัจจัยภายในในประเด็นเรื่องการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีปัจจัยบวกจากต่างประเทศเข้ามาช่วยหนุน ทำให้พอดัชนีวิ่งขึ้นมาได้นิดหน่อย จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรเพื่อปรับลดความเสี่ยง คล้ายกับว่า เดินหน้า 4 ก้าว แล้วถอยหลัง 3 ก้าวนั่นแหละ
เมื่อวานนี้ดัชนีปิดลบ 3.44 จุด มาที่ 1,557.71 จุด มูลค่ากรซื้อขาย 47,156 ล้านบาท แต่หุ้นเดลต้าฯ DELTA วิ่งขึ้นมาบวก 9.50 บาท ปิด 111.50 บาท มีส่วนช่วยต่อการดันดัชนี 9-10 จุด ไม่อย่างนั้น ดัชนี SET น่าจะลงไปปิดต่ำกว่า 1,550 จุดแน่ ๆ หากจะถามว่า เดลต้าฯ ขึ้นมาเพราะอะไร คำตอบคือ น่าจะมีการทำราคาขึ้นมา เพราะในกลุ่มมาตัวเดียวโดด ๆ ขณะที่ KCE กับ HANA ราคาลงไปอยู่แดนลบ สะท้อนให้เห็นว่า เดลต้าฯ ราคาที่วิ่งขึ้น-ลง แทบไม่ได้มาจากปัจจัยหนุนด้านอุตสาหกรรมสักเท่าไหร่
หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ นำโดย SAWAD MTC TIDLOR ราคาต่างพากันร่วงหนัก จากเซนติเมนต์เชิงลบเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด และ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ของไทย ต่างยังส่งสัญญาณว่า ดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น หรือมีโอกาสที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก อย่าง กนง.ของไทยเอง คาดกันว่า ดอกเบี้ยปีนี้ อาจจะปรับขึ้นอีก 1-2 ครั้ง ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นมาอยู่ระหว่าง 2.25-2.50% และแน่นอนว่า จะส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของกลุ่มไฟแนนซ์เวลาออกหุ้นกู้ นี่ยังไม่รวมปัจจัยลบอื่น ๆ เช่น หนี้เสียที่เริ่มเพิ่มขึ้นในระบบ แบงก์ชาติพยายามเข้ามาควบคุมระบบต่าง ๆ ฯลฯ
บมจ.เงินติดล้อ TIDLOR มีบิ๊กล็อตออกมาที่จำนวน 103,500,000 ล้านหุ้น คิดเป็นเงิน 2,600,437.50 ล้านบาท ที่ราคา 25.13 บาท ขณะที่ราคากระดานอยู่บริเวณ 27.00 บาท ส่งผลราคาหุ้นร่วงหนักทันที และลงมาปิดต่ำกว่าแนวรับจิตวิทยาสำคัญ 24.90 บาท หลุด 25.00 บาท ต้องมาลุ้นกันว่าจะดีดกลับได้หรือเปล่า แต่หากย้อนกลับไปดูบรรดาหุ้นบิ๊กล็อตทั้งหลาย หลังการซื้อขายแล้ว ราคามักจะลงต่อนะ
บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น MGC ในช่วง 6 วันทำการ ราคาหุ้นมีแต่ทรงกับทรุด ล่าสุดวานนี้ลงไปลึกถึง 9.15 บาท แต่ช่วง ATC ราคาถูกดันขึ้นมาปิด 9.30 บาท ส่วนปัจจัยลบที่กดดัน ยังไม่ทราบว่าจะมาจากเรื่องอะไร จะเกี่ยวกับบริษัทที่เข้าไปร่วมทุนกับ SCB ใน “ออโต้ เอกซ์” หรือเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะออโต้ เอกซ์ ไม่น่าจะได้รับผลลบจากที่กลุ่มลีสซิ่งได้รับผลกระทบกันอยู่ หรืออาจจะมาจากอุปทานหมู่ เห็นหุ้นในกลุ่มเดียวกันลง เลยลงตาม ส่วนยอดขายรถยนต์ ข่าวว่า ยังไปได้ด้วยดี ไตรมาส 2/2566 กำไรจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ในด้านราคาหุ้น หากไม่มั่นใจในกรอบ 9.15-9.40 บาท ให้รอราคาลงมาบริเวณ 8.90–9.15 บาท
บมจ.เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี DEXON มีนักลงทุนเข้ามาถามว่า ราคาเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้นหรือยัง เรื่องนี้ยากที่จะตอบ เพราะราคาพอถูกดันขึ้นมายืนเหนือ 3.00 บาทได้ ก็จะมีแรงทุบลงไปต่อ ส่วนราคาหุ้นที่ลงไปต่ำกว่า IPO (4.50 บาท) ค่อนข้างมาก กลุ่มคนที่ขายออก น่าจะมาจากคนที่ถือหุ้นเยอะ ๆ นั่นแหละ ๆ เพราะรายย่อยคงไม่สามารถกระหน่ำขายจนราคาร่วงลงมาแบบนี้ได้แน่นอน เช่นเดียวกัน หากราคาจะดีดกลับได้ ต้องไปถามคนที่ขายว่า จะเริ่มซื้อกลับเมื่อไหร่น่าจะดีกว่า ส่วนไตรมาส 2/2566 กำไรจะเป็นอย่างไร ให้ดูกราฟเป็นหลัก หากยังสามวันดีสี่วันไข้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ลองคาดเดากันเองแล้วกัน
ปลดล็อกข้อจำกัดทางธุรกิจ ล่าสุด บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (TVI) แปลงร่างเป็น Holding Company ดัน บมจ.ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้งส์ (TVH) เข้าเป็น บจ.แทน จากนั้นก็ดีลีท TVI ออกไป คาดว่าจะส่งผลบวกในอนาคต เช่น เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่สำคัญยังช่วยลดข้อจำกัดด้านการลงทุน ขณะที่บิ๊กบอส “จีรพันธ์ อัศวะธนกุล” เชิญผู้ถือหุ้นแลกหุ้นระหว่าง TVI เป็น TVH ในอัตราส่วน 1:1 ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 6 ก.ค. 2566