ถล่มบลูชิพ
สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเกริ่นนำเมื่อวันก่อนว่า “ฝรั่งขายแสนล้าน” ล้วนมาจากแรงขายในช่วงครึ่งปีแรกไหลออกมาไม่หยุดหย่อน
สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเกริ่นนำเมื่อวันก่อนว่า “ฝรั่งขายแสนล้าน” ล้วนมาจากแรงขายในช่วงครึ่งปีแรกไหลออกมาไม่หยุดหย่อน แถมเดือนนี้ก็ขายออกมาอีก 8.79 พันล้าน ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่า ฝรั่งยังมีของขายหุ้นได้อีกเยอะ ผนวกกับแรงจูงใจที่จะทำให้ฝรั่งลงทุนในตลาดหุ้นไทยลดน้อยลงเรื่อย ๆ จึงมองไม่เห็นหนทางที่ดัชนีจะตีกลับอย่างแข็งแกร่งในเร็ววันไงล่ะคะ
เมื่อสถานการณ์หลายอย่างส่อไปในทางที่แย่ลง “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่หุ้นบลูชิพตกอยู่ในสภาวะโดนถล่มหนัก จนราคาหุ้นรูดทะลุแนวรับลงไปอย่างง่ายดาย และมีความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นจะทำโลว์ใหม่ให้เห็นเรื่อย ๆ เพราะโมเมนตัมของตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ดีเอาเสียเลย จึงคาดหวังได้แค่เพียงการรีบาวด์ช่วงสั้น ๆ ซึ่งเป็นการประคองสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายลงไปกว่าเดิมเท่านั้นเองจ้า
ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,522.12 จุด ลบไป 15.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.30 หมื่นล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันต่อไปว่า แนวรับสำคัญบริเวณ 1,500 จุดจะสามารถต้านทานแรงขายได้นานแค่ไหน? เพราะตามรูปการณ์มีแต่ปัญหาเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” ถึงไม่อยากฝันหวานในเรื่องที่รู้อยู่เต็มอกโต ๆ ว่า อิมพอสซิเบิ้ล! จึงได้แต่ภาวนาอย่าให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกเลยเจ้าค่ะ
ขนาดหุ้นน้องใหม่ BLC มีอัพไซด์ให้เล่นสูงกว่า 30% กลับมีแรงขายพรั่งพรูออกมาตลอดเวลา จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 7.20 บาท ลบไป 3.30 บาท หรือลงไป 31.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.02 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย แถมในระหว่างวันยังมีการรินหุ้นออกมาเนือง ๆ จึงเป็นภาพสะท้อนความกังวลที่มีต่อหุ้นขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี และหนทางที่จะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีคือ ผลงานของบริษัทต้องออกมาดีพะย่ะค่ะ
ส่วนหุ้นขนาดใหญ่อีกตัวที่โดนถล่มหนักแบบไม่มีเยื่อใย “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น CPN แบบไม่ลังเลใจ เพราะราคาหุ้นกำลังอยู่ในช่วงตั้งลำเพื่อขึ้นรอบใหม่ แต่วานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 64.25 บาท ลบไป 4.25 บาท หรือลงไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 990 ล้านบาท พร้อมกับฉายภาพ V-Shape ให้เห็นเป็นเวลา 5 เดือนแบบนี้ น่าจะเป็นผลเกี่ยวเนื่องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งกระทบกับกำไรในงวดถัดไปแบบเต็ม ๆ กระมัง!
ประเด็นข้างต้นทำให้เหลียวมองไปยังหุ้นอย่าง AWC แบบรวดเร็วอีกเช่นกัน เพราะโมเมนตัมของหุ้นอยู่ในทิศทางขาลงเหมือนกัน แต่โชคดีตรงที่ยังประคองตัวเหนือโลว์เก่าที่บริเวณ 4.80 บาท จึงกลายเป็นช็อตที่น่าลุ้นสำหรับพวกเดย์เทรดในทันที “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 4.90 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาท น่าเล่นไหมเจ้าค่ะ
ในเมื่อเม้าท์ถึงหุ้นที่มีลุ้นกันทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นโรงหมออย่าง BCH เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบเล่นเสียวเป็นประจำ เพราะเที่ยวก่อนก็ลงมาขลุกขลิกที่บริเวณ 17 บาท ต่อจากนั้นก็วิ่งกลับขึ้นมาแถว 19 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นจับตาการยืนปิดที่ระดับ 17.60 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300 ล้านบาท น่าจะใกล้เวลาสำหรับการแทงสวนนะจ๊ะ
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นกระดาษลัง GPSC ก็อยู่ในข่าย “น่ารัก น่าลุ้น” สำหรับคนที่นิยมเล่นสั้น เพราะการเด้งขึ้นทันทีเมื่อลงไปทำโลว์เก่าที่บริเวณ 56 บาทในเที่ยวก่อน มันทำให้เชื่อว่า เที่ยวนี้น่าจะมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก “โมนิก้า” ถึงต้องถามนักเล่นสายลุยว่า การยืนปิดที่ระดับ 59 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 301 ล้านบาท น่าจัดสักดอกไหมเอ่ย?..อิอิอิ
ส่วนรายที่โดนขายเป็นช่วง ๆ ทั้งที่พื้นฐานยังคงเหมือนเดิม “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นอย่าง ORI ซึ่งอยู่ในอาการร่วงโรยแบบไร้เรี่ยวแรงต่อสู้อีกครั้ง และเมื่อดูจากจุดเด้งครั้งก่อนที่บริเวณ 10 บาทเป็นหลัก มันเป็นจังหวะที่เอื้อให้คนที่มีเงินเย็นช้อนซื้อเก็บไว้ในพอร์ต เพราะมองในมุมของ PE 7 เท่า ผนวกกับ BV 7.70 บาท มันทำให้ราคาปิดที่ระดับ 10.80 บาท ลบไป 30 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท ดาวน์ไซด์ต่ำมาก ๆ นะจะบอกให้