“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแข็งแกร่ง

“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแข็งแกร่ง ปรับตัวขึ้น 3 เดือนติด และสวนทางนักวิเคราะห์คาดลดลง โดย ณ เวลา 20.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,839.16 จุด บวก 124.45 จุด หรือ 0.37%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27มิ.ย.66) ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่แข็งแกร่ง โดย ณ เวลา 20.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,839.16 จุด บวก 124.45 จุด หรือ 0.37%

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ค. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดลดลง 0.9% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อเครื่องบินและรถยนต์

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. และปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

ด้านราคาหุ้นของบริษัทวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาขนาดใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 8% หลังเปิดเผยกำไรต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของปริมาณการฉีดวัคซีนโควิด-19 และยอดขายชุดตรวจโควิด-19

โดยสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิ.ย. รวมทั้งสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2566

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นมากกว่า 1% ในไตรมาส 2 ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 5% ส่วนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นมากกว่า 9%

ด้านนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดเข้าร่วมการเสวนาว่าด้วยนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดขึ้นที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส ในวันพุธที่ 28 มิ.ย.

นอกจากนี้ นายพาวเวลมีกำหนดเข้าร่วมการเสวนาว่าด้วยเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งธนาคารกลางสเปนจัดขึ้นที่กรุงมาดริดในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย.

ก่อนหน้านี้ ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่แล้ว นายพาวเวลกล่าวย้ำว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้

นายพาวเวลยังกล่าวว่า การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้ เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ซึ่งสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

Back to top button