“ชัยยศ” ชี้กลุ่ม “อิเล็กฯ-แบงก์” โอกาสขึ้นสูง-ทยอยสะสม “INTUCH-ADVANC” ปันผลดี
“ชัยยศ จิวางกูร” มอง 2 กลุ่มหุ้นเข้าสู่ขาขึ้น “อิเล็กทรอนิกส์-แบงก์” พร้อมแนะมองกลุ่มที่ให้เงินปันผลดี INTUCH-ADVANC สามารถทยอยสะสม อย่างไรก็ตามภายในพรุ่งนี้ จะมีการเปลี่ยน serie tfex คือตัว serie N จะหมดอายุ จะเปลี่ยนเป็น serie U ดัชนีอาจผันผวนเกิดขึ้น
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยผ่านรายการสด “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (28 มิ.ย. 66) ว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มจะเข้าใกล้ความชัดเจนมากขึ้น เห็นได้ชัดคือความแตกแยกในพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงเลือกตั้งมากที่สุด จุดนี้อาจจะส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลนั้นถูกเลื่อนออกไป มองว่าเป็นลบกับภาพรวมของตลาด เพราะผู้ที่ต้องดำเนินการนโยบายทางด้านเศรษฐกิจนั้นจะถูกชะงักเอาไว้ โดยตอนนี้ต้องยอมรับว่า sector การส่งออกของตลาดไทยนั้นถูกชะลอ อาจจะหวังได้ในส่วนของการบริโภคของประเทศ และการลงทุนของภาครัฐบาล
ทั้งนี้ สัญญาณเทคนิค แนวรับด้านล่างจะอยู่ประมาณระดับ 1,450-1,460 จุด ตรงนี้ถ้ามองเป็น Time Frame Week จะเข้าในส่วนของ Oversold ด้วย มองว่าจะเป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้นได้ ประกอบกับในเรื่องของถ้าดัชนีลงไปในระดับ 1,450 จุด ในภาพของ Valuation นั้นจะลงไปที่ประมาณ -1 FD ซึ่งเป็นจุดที่ SET มักจะรีบาวด์ขึ้นมาได้เช่นกัน
นายชัยยศ กล่าวอีกว่า หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในสภา มองว่าไม่น่ากังวลมากเพราะสภาจะมีวิธีรับมือกับปัญหาอยู่แล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่นอกเหนือจากในสภา ตอบได้ยากมาก เพราะต้องยอมรับว่ากระแสพรรคก้าวไกล ณ ขณะนี้ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีมาก หากพรรคนี้ไม่ได้ถูกจัดตั้งให้เป็นรัฐบาลอาจจะทำให้กลุ่มนี้ไม่พอใจ และอาจจะไปเล่นนอกบทจากสภา โดยต้องประเมินตามสถานการณ์ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แนวรับที่คาดไว้ข้างต้นอาจจะรับไม่ไหว
กลุ่มหุ้นแทบจะทุกกลุ่มมีการปรับตัวลงมาจากสถานการณ์ดังกล่าว อาทิ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่ม Commerce, กลุ่ม ICT นับว่าอยู่ในช่วงขาลงทั้งหมด มีเพียงแค่ 2 กลุ่มที่มองว่าสามารถเป็นขาขึ้นได้ คือ กลุ่มธนาคารและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือDELTA โดดเด่น ส่วนกลุ่มธนาคารมองกว่างบประมาณในไตรมาส 2/66 นั้นจะดีและทรงตัวได้
ขณะที่ในแง่ของการเข้าซื้อหรือสะสมหุ้นมองว่าต้องรอความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาล เพราะจะมีนโยบายของการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมองว่ากลุ่ม Commerce จะเป็นกลุ่มที่ดีในการรีบาวด์รอบใหม่ พร้อมแนะว่าให้มองกลุ่มที่ให้เงินปันผลดี เช่น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC สามารถทยอยสะสมได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ภายในพรุ่งนี้ (29 มิ.ย. 66) จะมีการเปลี่ยน serie tfex คือตัว serie N จะหมดอายุ จะเปลี่ยนเป็น serie U โดยส่วนใหญ่วันสุดท้ายนั้นมักจะมีการผันผวนเป็นปกติ มีความเป็นไปได้ที่ตลาดในวันพรุ่งนี้จะมีการผันผวนเกิดขึ้น และอาจจะสูงกว่าปกติ มองว่าต้องระมัดระวัง และภายในสัปดาห์หน้าจะมีการพรีวิวงบกลุ่ม
ทิ้งท้ายในกรณีของหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ว่าความกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานของบัญชี และมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการ หากเป็นกรณีนักลงทุนต่างชาติ ก็จะมีแค่เพียงกองทุนบางกลุ่มเท่านั้นเองที่เข้ามาลงทุน แต่เป็น sentiment แน่นอน เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นมีทั้งเรื่องผู้ลงทุนในส่วนของหุ้น และหุ้นกู้ ตรงนี้มองว่าเป็นผลกระทบวงกว้างพอสมควร โดยมูลค่าค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะของกลุ่มไฟแนนซ์ที่จะออกหุ้นกู้ชุดถัดไป อาจจะต้องมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน แต่ถ้ามองเป็นภาพรวมใหญ่ หุ้น STARK ไม่ได้กระทบ sentiment ขนาดนั้น