พรุ่งนี้! กกพ.จับสลากโซลาร์ฟาร์มราชการระยะแรก จำนวน 600 เมกะวัตต์

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ในฐานะโฆษก กกพ.เปิดเผยว่า คาดว่าผู้ที่ยื่นคำขอเสนอขายไฟฟ้าในโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์การเกษตร ในพื้นที่ของกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ และผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นนั้น มีโอกาสที่จะได้รับคัดเลือกทั้งหมด หลังมีผู้ผ่านคุณสมบัติ 2 ราย จำนวนรวม 7 เมกะวัตต์(MW)

ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวมีเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้า 11 เมกะวัตต์ รวมถึงในส่วนของพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีจำนวนปริมาณเสนอขายไฟฟ้าของผู้ผ่านคุณสมบัติน้อยกว่าเป้าหมายการรับซื้อ ส่วนในพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) คาดว่าจะมีการแข่งขันในสัดส่วน 1 ใน 3

“พื้นที่ กฟน.และสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ อาจจะได้ทั้งหมดหรือไม่ได้ทั้งหมด ต้องดูที่ Feeder (จุดเชื่อมต่อ)ด้วย เพราะบางคนอาจจะยื่น Feeder เดียวกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะต้องไปจับสลากในวันพรุ่งนี้ ส่วนพื้นที่ของ กฟภ.มีการแข่งขันสูงหน่อยราว 1 ใน 3″นายวีระพล กล่าว

สำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติในการรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ) ระยะแรก จำนวน 600 เมกะวัตต์นั้น มีทั้งสิ้น 219 ราย จำนวนรวม 1,028.67 เมกะวัตต์ จากผู้ที่ยื่นทั้งหมด 604 ราย จำนวนรวม 2,835.50 เมกะวัตต์

ประกอบด้วย หน่วยงานราชการ 121 ราย จำนวน 560.47 เมกะวัตต์ และสหกรณ์ภาคการเกษตร 98 ราย จำนวนรวม 468.20 เมกะวัตต์  โดยเมื่อพิจารณาตามพื้นที่เป้าหมายรับซื้อพบว่า สำหรับพื้นที่ของ กฟน.มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 17 ราย ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 75.7 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรับซื้อ 200 เมกะวัตต์ , พื้นที่กฟภ. มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 200 ราย ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 945.97 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรับซื้อ 389 เมกะวัตต์ และพื้นที่กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 2 ราย ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 7 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรับซื้อ 11 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมดจะต้องมาลงทะเบียนเพื่อรายงานตัวเข้าร่วมจับสลากในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าตามโครงการดังกล่าวต่อไป โดยขั้นตอนการจับสลากหลังจากสรุปผลจำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด และชี้แจงขั้นตอนการประมวลผลการจับสลาก การบรรจุสลากลงบอลลำดับ โดยมีนายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกกพ. เป็นผู้ขึ้นมาจับสลากบอล เพื่อคัดเลือกโครงการของหน่วยงานราชการหรือของสหกรณ์ฯ ที่จะได้รับการพิจารณาก่อนหลัง เพื่อใช้ในการประมวลผล โดยการประมวลผลจะพิจารณาจากความสามารถการรับไฟฟ้าของ Feeder ,หม้อแปลง และระบบส่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ตามลำดับ

หลังจากนั้นจะให้แต่ละเจ้าของโครงการที่นั่งตามคิว ขึ้นมาเป็นผู้จับสลากหมายเลขลำดับด้วยตนเอง โดยกำหนดให้ผู้จับสลาก 1 คนต่อ 1 โครงการเท่านั้น และจับสลากจนครบทุกโครงการ ซึ่งจะมีการบันทึกผลและแสดงผลขึ้นจอเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของกรรมการสักขีพยานตลอดทั้งกระบวนการ และจะมีการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการหลังจากนั้น

ส่วนขั้นตอนจัดทำและบรรจุสลากลงในลูกบอลลำดับจะกระทำต่อหน้าสักขีพยานจากหลายหน่วยงานจากภายนอก และผู้จับสลากจะได้เห็นลำดับที่ได้ของทุกโครงการก่อนที่จะนำไปประมวลผลและประกาศอย่างไม่เป็นทางการเมื่อจับสลากทุกโครงการเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะทราบผลทั้งหมดภายในเวลา 15.00 น. และประกาศผลการคัดเลือกอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 24 ธ.ค.นี้

“ขั้นตอนเตรียมการจับสลากจะมุ่งเน้นความโปร่งใส เป็นธรรม และอำนวยความสะดวกแก่ผู้จับสลากให้มากที่สุด โดยการจับสลากจะทำพร้อมกันทั้ง 2 ประเภทโครงการ ซึ่งลำดับสลากที่ได้จะเป็นการแข่งขันและนำไปสู่การประมวลผลตามระบบที่วางไว้ โดยแยกไปตามความพร้อมของจุดเชื่อมต่อ หม้อแปลง สถานีไฟฟ้า และเป้าหมายการรับซื้อตามประกาศฯ ซึ่งการแข่งขันจะแยกไปตาม Feeder ที่แต่ละโครงการเสนอไว้ โดยปริมาณเสนอขายและการยินยอมปรับลดปริมาณเสนอขายก็จะเป็นตัวแปรในการได้รับเลือกของแต่ละโครงการด้วย”นายวีระพล กล่าว

ทั้งนี้ กกพ.ได้ออกออกประกาศและหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ โดยการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวมีปริมาณรวมไม่เกิน 800 เมกะวัตต์ แบ่งการรับซื้อเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจำนวน 600 เมกะวัตต์ มีกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิขย์(SCOD) ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.59  ส่วนระยะที่สอง มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.61

นายวีระพล คาดว่าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ ระยะที่ 2 อาจจะมีขึ้นในช่วงกลางปี 59