TPL เทรดสนั่นวันนี้! VI หมื่นล้านพร้อมใจเข้าถือหุ้น ตอกย้ำ “High Growth” พื้นฐานแน่น
TPL ลงสนามเทรดวันนี้! หุ้นไอพีโอน้องใหม่ มั่นใจเทรดวันแรกกระแสการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ชูจุดเด่นบริษัทชั้นนำในธุรกิจโลจิสติกส์ที่แตกต่างเน้นส่งสินค้าขนาดใหญ่ ลุยพัฒนาศักยภาพจัดส่งก้าวสู่ "Green logistics"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (30 มิ.ย.66) บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการเป็นวันแรก TPL มีทุนชำระหลังเสนอขาย 262 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 404 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 396 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,729.2 ล้านบาท
ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 66 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566) เท่ากับ 27.82 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.05 บาท โดยมี บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
สำหรับ TPL ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทยทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป รวมถึงให้บริการเก็บเงินค่าสินค้าปลายทาง โดยบริษัทมีความชำนาญในการจัดส่งสินค้าในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะของที่มีน้ำหนักมากของที่มีขนาดใหญ่ หรือมีรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นมาตรฐานทั่วไป ปัจจุบันบริษัทให้บริการจัดส่งสินค้าและสิ่งของประมาณ 350,000 – 600,000 ชิ้นต่อเดือน ด้วยยานพาหนะหลายประเภททั้งรถบรรทุก และรถกระบะ รวม 300 คัน
โดยมีจุดให้บริการกว่า 120 แห่งทั่วประเทศทั้งในรูปแบบสาขาและแฟรนไชส์ กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทได้แก่ ผู้ประกอบการ โรงงาน เจ้าของผลิตภัณฑ์ ตัวแทนให้บริการโลจิสติกส์ เป็นต้น ในปี 2565 บริษัทมีรายได้ตามประเภทของการจัดส่งแบบธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B) แบบบุคคลถึงบุคคล (C2C) และแบบธุรกิจถึงบุคคล (B2C) ในสัดส่วนร้อยละ 33 : 36 : 31 ของรายได้การให้บริการตามลำดับ
ด้าน นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL เปิดเผยว่าในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หุ้น TPL จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดบริการ โดยบริษัทฯมีจุดเด่นการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยบริการจัดส่งพัสดุทุกขนาด ทั้ง B2B, B2C และ C2C มีความโดดเด่นในด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก (Odd size/Oversize) ทั้งยังสามารถตรวจเช็คสถานะขนส่งได้แบบ Real-time ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี
โดยภาพรวมผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาส1/2566 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.41 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.90% จากงวดเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 18.04% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) 0.53 เท่า
นอกจากนี้ มีนักลงทุน VI ทั้ง 2 คน คือ นายสุระ คณิตทวีกุล และ หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เข้ามาลงทุนตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีก่อนจะเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์ โดยเข้ามาช่วงขยายสำนักงานใหญ่ เพราะมองเห็นศักยภาพในการดำเนินงานของ TPL เชื่อมั่นว่านักลงทุน VI จะอยู่กับ TPL ไปตลอด และยังมีรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายราย และมีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือกลุ่มครอบครัวจีนะวิจารณะ ถือหุ้น 36.25% และ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA 26.73%
สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้จะผลักดันให้อนาคต TPL เป็นหุ้น High Growth เพราะทำให้เพิ่มศักยภาพการจัดส่งและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนสนับสนุนความสามารถทำกำไรสูงขึ้นช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน สนับสนุนฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการรักษาฐานอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 0.5 เท่า สามารถให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นได้ในระดับที่ดีในระยะยาว โดยปัจจุบันบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50%ของกำไรสุทธิ
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งกา รลงทุนสร้างศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Regional Hub) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกและกระจายสินค้า, การเพิ่มจุดให้บริการ (Drop Point) แก่ลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการ และการลงทุนในยานพาหนะทั้งรถบรรทุก 10 ล้อ และ 6 ล้อ ซึ่งใช้สำหรับการขนส่งในเส้นทางระหว่างภูมิภาค (Line Haul) เป็นหลัก และรถกระบะ 4 ล้อ ซึ่งใช้สำหรับการกระจายสินค้าสู่ผู้รับปลายทาง เพื่อให้บริษัทมีกองยานพาหนะที่สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
รวมทั้งบริษัทฯยังมีแผนที่จะปรับกองยานพาหนะของบริษัทด้วยการนำรถบรรทุกซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามาใช้ภายในปี 2566 โดยเริ่มจากเส้นทางในเขตภาคกลางและภาคตะวันออก และจะเร่งพัฒนาศักยภาพเพื่อก้าวสู่การขนส่งด้วยระบบ”Green logistics” ช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะเดียวกันบริษัทฯมีกลยุทธ์ในการดำเนินงานจะให้ความสำคัญกับพัฒนาบุคลากรและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งและระบบสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น
ขณะเดียวกัน นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ TPL กล่าวว่า มั่นใจว่า TPL จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้น่าประทับใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงมีจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งจากโครงสร้างการให้บริการมั่นคงและครอบคลุมทั่วประเทศ จากประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สั่งสมมากกว่า 18 ปี ฐานลูกค้าที่หลากหลายทั้ง B2B B2C และ C2C ระบบสารสนเทศพร้อมรองรับการเป็น Data Driven Org. ได้ในอนาคต
นอกจากนี้ นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการ การจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า TPL เริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการขนส่ง และพัฒนามาเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่มีความแตกต่างจากผู้ประกอบการทั่วไปอย่างเด่นชัด และสามารถเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจมาได้ทุกครั้ง โดยสะท้อนได้จากการรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนและโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้มากขึ้น ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง