XO วิกฤตคือโอกาส.!

ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นซอส บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ก็ไต่เพดานขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเดิมเคยเป็นหุ้น 10 บาทเศษ ก็ยกสถานะขึ้นเป็นหุ้น 20 บาทเศษไปแล้ว..!!

ตอนนั้นหุ้น XO ปรับขึ้นมาด้วยสตอรี่ที่ว่า ผลงานช่วงไตรมาส 2/2565 จะทำนิวไฮ หลังมีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ทั้งจากตลาดยุโรปและตลาดใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่เม็กซิโกและแคนาดา โดยเฉพาะที่อเมริกามีออเดอร์โตก้าวกระโดด โดยคาดในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 150 ตู้คอนเทนเนอร์ (ตามสัญญาต้องมีคำสั่งซื้อ 70 ตู้คอนเทนเนอร์)

กลายเป็นแรงหนุนนำให้หุ้น XO วิ่งกระจุยกระจาย…

หลังจากนั้นราคาก็ย่อตัวลงมา…แต่ล่าสุดกลับมาอีกรอบ โดยในรอบนี้ แค่ 4 วันทำการ ราคาปรับขึ้นไปแล้วกว่า 15%

คราวนี้มาด้วยสตอรี่ ซอสศรีราชาตราไก่ หรือซอสพริกศรีราชา ของบริษัท ฮุย ฟง ฟู้ดส์ จำกัด (Huy Fong Foods) ที่เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาขาดตลาด โดยมีการโพสต์ขายในเว็บไซต์อีเบย์ขวดเล็กขนาด 28 ออนซ์ ราคาสูงถึงขวดละ 70 ดอลลาร์ฯ (ราว 2,400 บาท) และในเว็บไซต์อะเมซอนที่ราคาขวดละกว่า 100 ดอลลาร์ฯ (ราว 3,500 บาท) หลังเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ และปัญหาฟ้องร้องภายในของบริษัท

จึงถูกมองว่า วิกฤตของ ฮุย ฟง ฟู้ดส์ จะกลายเป็นโอกาสของ XO..!!

น่าจะทำให้ยอดขายซอสพริกในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นนั่นเอง…

ที่จริงเหตุการณ์ลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นซอสพลิกศรีราชาตราไก่ก็ขาดตลาดเช่นกัน เนื่องจากประสบปัญหาภาวะพริกขาดตลาด ทำให้ต้องหยุดรับออเดอร์ไประยะหนึ่ง

โอเค…แม้ตอนนี้ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ว่า XO จะได้ประโยชน์จากกรณีดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน..? จะเป็นไปตามที่คาดการณ์กันหรือเปล่า..?

แต่ที่ประจักษ์แล้วก็คงเป็นราคาหุ้นนี่แหละ ซึ่งมีแรงเข้ามาเก็งกำไรกันคึกคัก…

ขณะที่ย้อนมองปัจจัยพื้นฐานของ XO ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร…

เป็นบริษัทที่มีจุดแข็งตรงที่สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี มีการล็อกราคาวัตถุดิบได้ยาวนาน (ปัจจุบันได้มีการล็อกราคาไปถึงกลางปี 2567 แล้ว) บวกกับการขยันหาตลาดใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกงานแสดงสินค้าทั่วโลก (ปีนี้บริษัทมีแผนออกงานรวม 24 งาน ส่วนในปี 2567 จะออกงานแสดงสินค้าไม่ต่ำกว่า 20 งาน) ทำให้ช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการเติบโตโดดเด่น

ล่าสุดประเดิมงบงวดไตรมาส 1/2566 ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิ 96.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 95.16 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 394.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 347.75 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ XO จาก 2 ปัจจัยบวก 1) ลูกค้าเก่ายุโรปมีดีมานด์ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด แม้ปรับเพิ่มราคาปีนี้แล้วราว 10% และ 2) ลูกค้าใหม่ทวีปอเมริกา หลังเริ่มส่งออเดอร์ตั้งแต่ พ.ค. 2566 ยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง และเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566-2567 ขึ้นเฉลี่ย 12% จากทั้งรายได้และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น

ส่วนที่เห็นราคาหุ้นวานนี้ (5 ก.ค.) ปิดตลาดที่ 23.20 บาท ปรับลดลง 3.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108.98 ล้านบาท ก็อย่าเพิ่งตกใจไปล่ะ…น่าจะเป็นแค่การขายทำกำไรซะมากกว่า

เอาเป็นว่า ใครใคร่จะซื้อ..ก็ซื้อ ส่วนใครใคร่จะขาย…ก็ขาย

…เลือกที่สบายใจละกัน…

…อิ อิ อิ…