“สภาผู้บริโภค” แถลงค้าน “ไตรรัตน์” ปลด “หมอลี่” พ้นที่ปรึกษาประธานกสทช.
สภาองค์กรของผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก “ประณามการทำผิดกฎหมาย! “ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล” ใช้อำนาจโดยมิชอบปลด “หมอลี่” หรือ นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา พ้นตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกสทช.
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการขององค์กร หัวข้อ “ประณามการทำผิดกฎหมาย! ไตรรัตน์ใช้อำนาจโดยมิชอบปลดหมอลี่” มีเนื้อหาระบุว่า กลุ่มผู้บริโภคและภาคประชาสังคมร่วมกันประณามการกระทำของนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ และรักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ออกคำสั่งปลด “หมอลี่” หรือ นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ที่ปรึกษาประธาน กสทช. ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยทันทีในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้
โดยแถลงการณ์ของสภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุต่อไปว่า การกระทำของนายไตรรัตน์ถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ และผิดระเบียบ กสทช. ที่เลขาธิการมิได้มีอำนาจปลดที่ปรึกษาประธาน กสทช. อีกทั้งการกระทำครั้งนี้ส่อให้เห็นพฤติกรรมที่ต้องการรวบอำนาจการบริหาร กสทช. และกำจัดเสี้ยนหนามภายในใช่หรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์ประวิทย์ มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและกฎระเบียบของ กสทช. มายาวนาน ซึ่งที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ด้านการรักษาผลประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง
นอกจากนี้ เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า การปลดฟ้าผ่าในครั้งนี้อาจเกี่ยวพันกับการรายงานผลของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก ซึ่งนายแพทย์ประวิทย์ เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการ และต่อมาผลของการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้นำไปสู่การพิจารณาของบอร์ด กสทช. ที่มีเสียงข้างมากให้ปลดนายไตรรัตน์เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประธานบอร์ด กสทช. นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ กลับไม่ลงนามตามมติดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่การปลดนายไตรรัตน์มีผลแล้ว ตามมติเสียงข้างมาก ทำให้นายไตรรัตน์ใช้อำนาจโดยมิชอบออกคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่บริหารภายใน กสทช. เป็นจำนวนมาก รวมทั้งการปลดนายแพทย์ประวิทย์ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กสทช.
กว่า 25 ปีที่ผ่านมา นายแพทย์ประวิทย์ มีผลงานโดดเด่นด้านการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งในระหว่างช่วงดังกล่าวได้เข้ามาทำงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม โดยเริ่มจากการเป็นผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการคมนาคม (สอบ.) ระหว่างปี 2550 – 2554 และต่อมาได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ระหว่าง ปี 2554 – 2565 จนปัจจุบันนี้ ถือได้ว่านายแพทย์ประวิทย์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการโทรคมนาคมทั้งด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้านกฎหมายและการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างหาคนเทียบได้ยาก
การทำงานในช่วง 1 ปี ของนายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา (ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ประธาน กสทช. เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565) นั้น นายแพทย์ประวิทย์ได้ดำรงตำแหน่งอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ดังนี้
1.ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม
2.ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจ ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง
3.หัวหน้าคณะทำงานพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งโทรศัพท์ (Call Center) และข้อความสั้น (SMS) หลอกลวง
4.ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามและประเมินผลการรวมธุรกิจตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม
5.คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี การดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
6.ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการด้านการแข่งขันและราคา
7.ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง
“การปลดนายแพทย์ประวิทย์จากตำแหน่งดังกล่าวจึงไม่อาจตีความอย่างอื่นไปได้นอกจากเป็นการขจัดเสี้ยนหนามของการรวมอำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์ใน กสทช.” สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุ