ซีไอเอ็มบีฯปลื้ม‘โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ’เพียง 2 เดือนสร้างผลตอบแทนกว่า 3%
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางบริษัทได้เปิดตัว 'กองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ' (CIMB-PRINCIPALGlobal Silver Age Fund หรือ CIMP-PRINCIPAL GSA) เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้กว่า 3% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (9 ตุลาคม 2558) - 30 พฤศจิกายน 2558 สูงกว่าดัชนี MSCI World ที่ 1.54%
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางบริษัทได้เปิดตัว ‘กองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ’ (CIMB-PRINCIPALGlobal Silver Age Fund หรือ CIMP-PRINCIPAL GSA) เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้กว่า 3% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (9 ตุลาคม 2558) – 30 พฤศจิกายน 2558 สูงกว่าดัชนี MSCI World ที่ 1.54%
ในขณะที่เรายังเชื่อมั่นว่าธีมการลงทุน Global Silver Age เป็นธีมการลงทุนระยะยาวที่เน้นเลือกลงทุนรายตัวจากการเติบโตของกลุ่มเกษียณที่มีความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นกลุ่มDemographic Megatrend และเป็นกลุ่มหลักที่กำลังจะทยอยเกษียณในช่วง 10-20 ปีข้างหน้าถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมหาศาลที่พร้อมจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตนเองทั้งด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว การบริหารเงินลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ด้วยศักยภาพของผู้บริโภคกลุ่มนี้สามารถที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทต่างๆ ที่เน้นสินค้าหรือบริการที่ผลิตให้กับกลุ่มผู้บริโภคซิลเวอร์ เอจ ได้เป็นอย่างดี
กองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลโกลบอลซิลเวอร์เอจ (CIMB-PRINCIPAL GSA) มีนโยบายการลงทุนในธีมSilver age ซึ่งกระจายการลงทุนในธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มเกษียณมั่งคั่งเช่นสุขภาพและความสวยความงาม (Health and Wellness Well-Being) การท่องเที่ยวเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพโรงพยาบาลและการรับบริการทางการแพทย์ธุรกิจเวชภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์เพื่อผู้สูงวัยการประกันภัยและประกันชีวิต
แนวโน้มการลงทุนที่สนับสนุนต่อการลงทุนในกองทุนนี้ มาจากการเติบโตของกลุ่มผู้สูงอายุทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นOxford Economic, 2014 มีมุมมองต่อการเติบโตของกลุ่ม Silver Age ของสหรัฐอเมริกาจะมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2032 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 52% ขยายตัวจาก 46% ในปี 2012 และเป็นกลุ่มหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้เติบโตในช่วงทศวรรษต่อจากนี้
เราจะพบว่าสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนา (Developed market) ถือเป็นกลุ่มเกษียณมั่งคั่ง (Silver Age) ซึ่งมีรายได้และเงินออมสูงและพร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพื่อความสุขของตนเองโดยพบว่ากลุ่มประเทศที่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากสุด ได้แก่ สหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่น และคาดว่าภายในปี 2050 จะมีจำนวนประมาณ 2,000 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 900 ล้านคนในปัจจุบัน
ทั้งนี้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากกลุ่ม Silver Age ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เน้นการลดริ้วรอย (Anti-aging) กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ (เครื่องวัดความดัน, เครื่องช่วยฟัง, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตา) กลุ่มผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์เน้นโรคที่เกิดกับกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มโรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ สถาบันการเงินที่ให้คำปรึกษาวางแผนการเงินหลังเกษียณ บริษัททัวร์หรือเรือสำราญ บริษัทรถยนต์ที่ผลิตโดยคำนึงถึงกลุ่มผู้สูงอายุ และผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันและสัญญาณเตือนภัย เป็นต้น
นายวิน กล่าวสรุปว่า เรายังมีมุมมองที่ดีต่อธีมการลงทุน ‘Global Silver Age’ ที่เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงและกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม ทำให้มีความผันผวนจากการลงทุนต่ำ และมีความคล่องตัวในการปรับกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงขณะ ทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในภาวะที่ตลาดหุ้นโดยรวมมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา โดยเราเชื่อว่ากองทุนCIMB-PRINCIPAL GSA นี้เป็นหนึ่งในกองทุนที่เราแนะนำสำหรับการลงทุนในปี 2016 คาดมีโอกาสสร้างผลตอบแทนประมาณ 10%-12% ต่อปี