“บอย ท่าพระจันทร์” ลั่นขาดทุนได้ แต่ห้ามตาย! ย้ำไม่เลิกเทรดหุ้น

นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ (บอยท่าพระจันทร์) นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวในงานสัมมนา “Battle Strategy แผนฝ่าวิกฤติ พิชิตสงคราม EPISODE V : วิกฤติมาทุกทิศ โอกาสมีทุกทาง” ว่าวิกฤติของผมมีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเกิดมาชีวิตเหมือนคุณตันตอนเด็ก และโชคดีที่มีลักษณะเหมือนคุณตัน คือ ไม่มีอะไร ทำให้ความรู้สึกจนของเรา อยากที่จะมีเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ และขนไขว่ทุกช่องทาง

ขณะเดียวกันผมโชคดีที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไรในวัยเด็ก จุดเปลี่ยนคือตอนไปบวชพระ ที่ชอบพระ ตอนแรกยังไม่ชอบ และเรียนรู้มาโดยตลอดตั้งแต่อายุ 13 ปี

จนกระทั่งเข้ามาวงการหุ้นในปี 2556 เมื่อมาเจอเสี่ยป๋อง ตอนเรียนหลักสูตรพิเศษ และได้เข้ามาวงการ เริ่มแรกได้หุ้นจองไอพีโอ 1 ล้านบาท และคิดว่าตลาดหุ้นเล่นง่าย เพราะพระเครื่อง ต้องหาของแท้ ต้องมีของ ต้องมีคนซื้อ และต้องรับประกันไปตลอดชีวิต แต่ตลาดหุ้นไม่ต้องรับประกัน บอกซื้อ แต่ขาย -บอกขาย แต่ซื้อ

สำหรับช่วงวิกฤติแรก ลงทุนหุ้น 60 ล้านบาท ขาดไป 65% เหลือเงินอยู่ 20 กว่าล้านบาท เลยไปขอคำปรึกษาจากเสี่ยป๋อง แนะนำให้ไปเรียนกราฟ จนช่วงหนึ่งที่ถัวหุ้นเรื่อย ๆ จากดัชนี 1,200 จุด ขึ้น 1,500 จุด จนหุ้นในพอร์ตที่ติดลบกลายเป็น เท่าทุน และขายทิ้งล้างพอร์ตจนหมด และบอกกับตัวเองว่า ต้องเลิกเล่นหุ้น เพราะมันเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

แต่พอหลังจากนั้นไม่นาน ก็นั่งดูหุ้น และคิดว่าถ้าไม่ขายจะกำไร 20 ล้านบาท ไม่น่าขายเลย ทำให้รู้สึกแค้น อยากเอาคืน อุตส่าห์ทนมาตั้งนาน พอกลับไปเอาใหม่ หุ้นก็ลงต่อ

“นี่คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า เรายังอ่อนหัดกับตลาดหุ้นมาก ไม่เหมือนวงการพระ ถ้าพระเครื่องที่แท้วันนี้ อีก 50 ปี ข้างหน้าก็ยังแท้อยู่ ในขณะที่ถ้าเก๊วันนี้แล้ว วันข้างหน้าก็เก๊ ยกเว้นเราดูผิดตั้งแต่วันแรก” นายอรรถวัติ กล่าว

นายอรรถวัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าในวันนี้เราเช่าพระแท้แล้ว เราไม่มีวันแพ้เลย  ราคาเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในตลาดหุ้น ถ้าคุณ cut ไปแล้ว หรือขายไปแล้ว มันคือ จบเลย ทำให้เกิดสนใจในตลาดหุ้นอีกครั้ง และกลับไปเรียนกราฟ

โดยผมวนกับการลองผิดลองถูกกับการใช้กราฟ อยู่ 1-2 ปี และผมเจอคุณตัน ปี 2558 และเจอเสี่ยยักษ์ และได้คำแนะนำจากการเล่นหุ้น หลังจากได้ความรู้จากเสี่ยป๋อง

นอกจากนี้ เสี่ยยักษ์ บอกว่า ผมใจถึง กล้า cut หุ้น เสียหาย 20 ล้านบาท แบบนี้เล่นหุ้นได้ จนมาใช้กราฟ และเล่นหุ้นตัวเดียวกับเสี่ยป๋อง โดยที่ไม่มีการปรึกษากันก่อน แต่มาแชร์กันหลังตลาดปิด

ขณะที่ช่วงโควิดเสียหายจากหุ้นเยอะมาก ถ้าไม่มีเงินมาเติม อาจจะไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ และบอกว่า ไม่เข็ด และไม่ยอมออกจากตลาดหุ้นเหมือนเมื่อก่อน

สำหรับปีนี้ ถือเป็นปีที่โหดร้ายสำหรับผมมาก และเชื่อว่า หลายๆคนก็ขาดทุน นอกจากคนที่เก่งมากๆ คนนั้นจะรอด

“เราขาดทุนได้ แต่เราห้ามตาย เราต้องกลับมาให้ได้” นายอรรถวัติ กล่าวทิ้งท้าย