NUSA ร่วง 7% เซ่น “ตลท.” เตือนหลัง “ผู้สอบบัญชี” พบข้อสังเกตดีลซื้อโรงแรมเยอรมนี

NUSA ร่วง 7% เซ่น “ตลท.” เตือนหลัง “ผู้สอบบัญชี” แสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไข-มีข้อสังเกต ดีลซื้อโรงแรมเยอรมนี พร้อมสั่งชี้แจงข้อมูลภายใน 25 ก.ค.นี้ โดยะขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(11ก.ค.66) บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ณ เวลา 10:07 น. อยู่ที่ระดับ 0.65 บาท ลบ 0.05 บาท หรือ 7.14% โดยทำจุดสูงสุดที่ 0.67 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 0.65 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.39 ล้านบาท

โดยเช้านี้(11ก.ค.)ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ NUSA ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 1/66 ซึ่งผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต เนื่องจากความซับซ้อนของการจัดโครงสร้างของผู้ขายโรงแรม รวมถึงสิทธิเครื่องหมายทางการค้าและใบอนุญาตต่างๆ ในประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นประเด็นต่อเนื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเคยให้บริษัทชี้แจงครั้งนี้มีเปลี่ยนแปลงรูปแบบและเงื่อนไขการลงทุนในโรงแรมดังกล่าว

อนึ่งตามที่ศิริ (NUSA) ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1/66 ซึ่งผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต เนื่องจากความซับซ้อนของการจัดโครงสร้างของผู้ขายโรงแรม รวมถึงสิทธิเครื่องหมายทางการค้าและใบอนุญาตต่างๆ ในประเทศเยอรมนีและบริษัทย่อยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและเงื่อนไขการซื้อขายโรงแรมหลายครั้ง โดยผู้สอบบัญชีให้ความเห็นในลักษณะดังกล่าวตั้งแต่งบการเงินปี 64 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เคยให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับงบการเงินปี 64 และไตรมาสที่ 3/65 โดยเฉพาะเรื่องการซื้อโรงแรมที่ประเทศเยอรมนี

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 25 ก.ค.66 โดยมีรายการสำคัญ ดังนี้

1.รายการเข้าซื้อโรงแรมที่เยอรมนี เดือนม.ค.64 NUSA จะเข้าซื้อโรงแรมที่เยอรมนีซึ่งอยู่ระหว่างขอใบอนุญาต ต่อมาในงบการเงินไตรมาสที่ 3/65 ได้เปลี่ยนเป็นการซื้อหุ้นแทน (เป็นเจ้าของบริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นโรงแรมดังกล่าว) โดยจ่ายเงินมัดจำให้ผู้ขายแล้ว 624 ล้านบาท (84% ของราคาซื้อไม่เกิน 740 ล้านบาท ขึ้นกับผล Due Diligence) อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพ.ค.66 ได้เปลี่ยนการลงทุนเป็นการซื้อหุ้น (ไม่ระบุชื่อ) โดยยกเลิกสัญญาเดิมและตกลงให้ผู้ขายเดิมคืนเงินมัดจำภายใน 2 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย ทั้งนี้ ปรากฏข้อมูลว่ามีการเลื่อนเปิดโรงแรมจากไตรมาสที่ 3/66 เป็นปี 67

ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขว่าไม่สามารถสอบทานรายการนี้ให้มั่นใจเกี่ยวกับผู้ขายที่แท้จริงและไม่สามารถสรุปได้ว่าจำเป็นต้องปรับปรุงเงินมัดจำค่าซื้อโรงแรมและสิทธิเครื่องหมายการค้าดังกล่าวหรือไม่ หากต้องปรับปรุงจะมีผลกระทบต่องบการเงินอย่างไร

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงในประเด็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและเงื่อนไขการลงทุนในโรงแรมดังกล่าว ความคืบหน้าและกรอบเวลาในการทำ Due diligence แล้วเสร็จ เหตุใดจึงไม่เรียกคืนเงินมัดจำทันที และแนวทางการดำเนินการเพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถสอบทานรายการดังกล่าวได้อย่างมั่นใจและสามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินแบบไม่มีเงื่อนไขได้

2.รายการเกี่ยวกับบริษัท มอร์ มันนี่ เอน็เตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เดือนก.ค.65 NUSA ลงทุนในบริษัท มอร์ มันนี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มอร์ มันนี่) 30% (ผู้ถือหุ้นอีก 50% คือ บริษัทย่อยของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE)) และได้วางเงินมัดจำให้แก่มอร์มันนี่ เพื่อเป็นหลักประกันว่าบริษัทจะปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการร่วมทุน ต่อมาบริษัทได้ยกเลิกการร่วมลงทุน และขายหุ้นมอร์มันนี่ โดยได้โอนกรรมสิทธิในหุ้นดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อแล้ว แต่ยังไม่ได้รับชำระค่าขาย นอกจากนี้ มอร์ มันนี่ ได้ขอขยายเวลาคืนเงินเพิ่มทุนและเงินมัดจำรวม 57.5 ล้านบาท ออกไปอีก 90 วัน (ครบวันที่29 ก.ค.66 และวันที่ 11 ส.ค.66 ตามลำดับ)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงเหตุผลที่ขยายเวลาคืนเงินเพิ่มทุนและเงินมัดจำ มาตรการดำเนินการเพื่อให้ได้รับคืนเงินดังกล่าวเมื่อครบกำหนดเวลาที่ขยาย รวมทั้งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท

3.ความสามารถของกลุ่มบริษัทในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ผู้สอบบัญชีได้ให้ข้อสังเกตเรื่องความสามารถของกลุ่มบริษัทในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่องหลายปี และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/66 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินสำคัญ คือ เจ้าหนี้ค่างานก่อสร้างของบริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด (ณุศา เลเจนด์) รวม 1,723 ล้านบาท โดย China International Economic and Trade Arbitration Commission มีคำชี้ขาดข้อพิพาทให้บริษัทชำระหนี้ของณุศา เลเจนด์ อย่างไรก็ดี บริษัทได้ยื่นขอเพิกถอนคำชี้ขาดข้อพิพาทดังกล่าว โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะยังไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดในมูลหนี้อื่นของบริษัท

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงความคืบหน้าของข้อพิพาทดังกล่าว รวมถึงผลกระทบต่อเหตุผิดนัดในมูลหนี้อื่นของบริษัท เช่น หนี้หุ้นกู้ เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เป็นต้น เนื่องจากประเด็นข้างต้นตามข้อ 1- 3 อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและสภาพคล่องของบริษัทตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบต่อผลกระทบดังกล่าว รวมทั้งเป็นประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มบริษัทและผู้ถือหุ้น อย่างไร

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนติดตามคำชี้แจงของบริษัทโดยสามารถศึกษาข้อมูลได้จากงบการเงินของบริษัท (งวดปี 64 ถึงไตรมาสที่ 1/66) ข่าวชี้แจงของบริษัทวันที่ 6 พ.ค.65 และวันที่ 9 ก.พ.66

Back to top button