“กรภัทร” มอง 4 ฉากทัศน์ “หุ้นได้ประโยชน์” โยงอนาคต “พิธา” กับเก้าอี้นายก
“กรภัทร วรเชษฐ์” มอง 4 ฉากทัศน์อนาคต “พิธา” กับเก้าอี้นายก ต่อตลาดหุ้นไทย กับกลุ่มหุ้นที่จ่อได้รับประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (13 ก.ค. 2566) การประชุมร่วมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามขั้นตอนโหวตนายกรัฐมนตรี มาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด หรือ 376 เสียง ทั้งนี้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เสนอชื่อ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เพื่อให้สมาชกรัฐสภาลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี
สำหรับผลการประชุมร่วมรัฐสภา มีมติเห็นชอบ 324 เสียง มาจากกลุ่ม 8 พรรคเอกฉันท์ 311 เสียง และเสียงส.ว. 13 เสียง โดยไม่เห็นชอบ 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง ทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง (376 เสียง) จึงถือว่าไม่ผ่านการเห็นชอบจากการประชุมร่วมรัฐสภาดังกล่าว
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ก่อนหน้า กล่าวถึงความคืบหน้าการเมืองก่อนการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 1 วันที่ 13 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา คาดโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสูงขึ้น หลังจาก กกต. ลงมติสั่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีคุณพิธาฯ (ตัวเลือกนายกฯ พรรคก้าวไกล) และศาลรับคำร้องไว้
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งรับคำร้องกรณีอดีตทนายความพุทธะอิสระ ขอให้วินิจฉัยว่าการเสนอแก้ ม. 112 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ-ล้มล้างการปกครอง โดยพรรคก้าวไกลและคุณพิธาฯ จะยังมีประเด็นทางศาล แต่ในการโหวตนายกฯ คุณพิธาฯ ยังถูกนำเสนอชื่อได้ โดยการโหวตจะเกิดขึ้นวันนี้ (13 ก.ค.) พบว่า ส.ว. ส่วนใหญ่งดออกเสียง ทำให้การโหวตอาจจะยังไม่จบในครั้งแรก โดยภาพรวมมองการเมืองใกล้จุดชัดเจน มองเป็นโอกาสสะสมหุ้นที่ปรับฐานลึกจากจิตวิทยาลบการเมืองไม่ชัดเจน อาทิ GULF, BGRIM, CRC, BJC, CPAXT, THCOM, TRUE, PTTGC เน้นสะสม GULF, THCOM, PTTGC ทั้งนี้ อิงสถานการณ์ล่าสุดประเมินการจัดตั้งรัฐบาล 4 กรณี
กรณีที่ 1 คือ คุณพิธาฯ ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล+ 8 พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะจัดตั้งรัฐบาล 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางเป็นอะไรที่ต้องติดตาม และอาจจำกัดกรอบราว 1600-1620จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มหุ้นอิงการบริโภคขนาดกลางอิงรากฐานแข็งแรงขึ้น+ได้ประโยชน์รัฐสวัสดิการ และนโยบายอื่นๆของพรรคก้าวไกล อาทิ CPAXT, ICHI, MC, GLOBAL, BCH, CHG, HANA, AMATA, WHA, BBL, KTB, TTB กลุ่มที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัจจุบันในภาคท่องเที่ยว อาทิ ERW, MINT
กรณีที่ 2 คือ คุณพิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทนและยังตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วมปัจจุบัน 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1680-1720 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT, PTTGC, GULF, BGRIM กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC, TRUE, THCOM กลุ่มอสังหาฯ ได้แก่ SC, SIRI และหากไม่เกิดการชุมนุมที่มีความรุนแรง กลุ่มที่เคลื่อนไหวบวกตามมากลุ่มอิงการบริโภคภายใน คือ กลุ่มธนาคาร ได้แก่ BBL, KTB, TTB กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, CPAXT, CRC, BJC, DOHOME, GLOBAL กลุ่มนิคม ได้แก่ AMATA, WHA กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, MINT
กรณีที่ 3 คือ คุณพิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน ขณะที่พลิกขั้วไปจับพรรคว่าที่ฝ่ายค้าน ประเมินเสียงราว 280-310 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1620-1680 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT, PTTGC, GULF, BGRIM, PTTGC กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC, TRUE, THCOM กลุ่มรับเหมาฯ ได้แก่ ITD, STEC แต่ความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดกว่ากรณีที่ 2 จะสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มอิงการบริโภคภายในจนกว่าการชุมนุมจะสิ้นสุด คือ กลุ่มธนาคาร ได้แก่ BBL, KTB, TTB กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, CPAXT, CRC, BJC กลุ่มนิคม ได้แก่ AMATA, WHA กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, AWC
กรณีที่ 4 คือ คุณพิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ในลักษณะเสียงข้างน้อย คือ ว่าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ประเมินเสียงราว 140-150 เสียง มองกดดัน SET จากทั้งการขับเคลื่อนนโยบายขาดเสถียรภาพ และมีความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดมากสุดในทุกกรณี ประเมิน SET กรอบ 1350-1460 จุด กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาดมองกลุ่มถูกกดดันจากการเมือง อาทิ GULF, BGRIM, THCOM, TRUE, STEC, STPI อิงความต้องการโลก (Global Plays) อาทิ HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT, PTTGC, IVL