CEN คาดปี 59 พลิกกำไรจากปีนี้ยังขาดทุน หลังจะรับรู้ฯ โรงไฟฟ้าเต็มปี

CEN คาดปี 59 พลิกกำไรจากปีนี้ยังขาดทุน หลังจะรับรู้ฯ โรงไฟฟ้าเต็มปี


นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ กรรมการ บริษัท แคปปิตอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ CEN เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 59 จะพลิกมีกำไรสุทธิ โดยตั้งเป้ารายได้จะเติบโตใกล้เคียง 10% จากปีนี้ที่คาดว่าการดำเนินงานจะยังคงมีผลขาดทุนสุทธิ หลัง 9 เดือนแรกขาดทุนราว 101.18 ล้านบาท

เนื่องจากในปีหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้จากบริษัทลูกเพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจาก บมจ.เอื้อวิทยา (UWC) คิดเป็นราว 59% ของรายได้รวม, บมจ.ระยองไวท์ อินดัสตรีส์ (RWI) ราว 27% ,บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด อีก 10% และอื่นๆอีก 3%

นายดามพ์ กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทจะรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าเข้ามาเต็มปี โดยคาดว่า UWC จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 138 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 40 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องแล้วหรือเข้าไปถือหุ้นบางส่วน เพื่อทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที

ขณะที่ RWI ที่ดำเนินธุรกิจผลิตเส้นลวดได้มีการลงทุนในส่วนของเครื่องจักรไปแล้ว สามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 62,000 ตันต่อปี จากปีนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 38,000 ตันต่อปี พร้อมทั้งมองหาโอกาสขยายการลงทุนไปในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ยุโรป และ ตะวันออกกลาง เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วง 3 ปี จากปัจจุบันได้ขยายไปในลาว กัมพูชา พม่า บ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม RWI มีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมในประเทศลาวอีกด้วย ซึ่งจะเข้าไปตั้งโรงงานเพื่อผลิตลวด และจำหน่ายให้แก่ผู้รับเหมาโดยตรง โดยจะเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็นกว่า 20% ในปี 61 จากปีนี้ประมาณ 2%  

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (59-61) บริษัทฯคาดจะมีสัดส่วนรายได้ในปี 59 มาจากธุรกิจพลังงาน 60% และธุรกิจผลิตและจำหน่ายโครงเหล็กชุบสังกะสี สำหรับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาโทรคมนาคม และโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อย 40% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 80:20 ในปี 61 หลังจากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 227 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนระยะ 3 ปีไว้ราว 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม หรือ การเข้าไปร่วมลงทุนถือหุ้น โดยมีนโยบายการเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 50:50 เป็นอย่างต่ำ

ส่วนการนำบริษัทย่อย บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) นั้น ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ดังกล่าว มองว่าหากสามารถดำเนินการได้สำเร็จจะส่งผลดีต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ โดย ENS มีรายได้ต่อปีราว 600-700 ล้านบาท

Back to top button