AS จับมือ “บิทคับ” ลุยระบบ “บล็อกเชน” เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
AS จับมือ “บิทคับ ออนไลน์” ดันธุรกิจเข้าระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือเว็บ 3.0 หวังขยายฐานลูกค้าในอนาคต และพัฒนาระบบนิเวศของบล็อกเชนครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม ASTRONIZE คาดดีลนี้เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 4/66 มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า
นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.66 บริษัทประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรร่วมกับ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งมีบริษัทในกลุ่มเป็นผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย โดยบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด(BO) 9.22% ของทุนจดทะเบียน คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท โดยการประกาศความร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ (Strategic partnership) เพื่อผนึกความแข็งแกร่งและขยายโอกาสทางธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่ายในอนาคต
ซึ่งนับจากปีที่แล้วที่บริษัท แอสเฟียร์ฯ ได้ปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจจากเดิมที่ให้บริการเกมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งสู่การเป็นบริษัทด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ทำให้เราสนใจนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จนถึงปัจจุบันเราเล็งเห็นถึงโอกาสและมีความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือเว็บ 3.0 จะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต
ดังนั้นจึงมีความสนใจเข้าลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ เนื่องจากเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% รวมถึงกลุ่มบิทคับยังมีความเชี่ยวชาญและมีระบบนิเวศด้านบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีที่ครบวงจรมากที่สุด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจของแอสเฟียร์ฯรวมถึงบริษัทในกลุ่มให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ในหลากหลายด้าน อาทิ การนำฐานข้อมูลธุรกรรมบนระบบออนไลน์ขึ้นบล็อกเชนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น การประยุกต์เทคโนโลยีบล็อกเชนกับธุรกิจเกมในรูปแบบ Play & Earn และการพัฒนา Metaverse รวมถึงการสร้าง dApps (Decentralized Applications) เพื่อต่อยอดบริการใหม่ ๆ ในธุรกิจปัจจุบันของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ แอสเฟียร์ฯ ยังมีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน และมีฐานลูกค้ามากกว่า 180 ล้านไอดี ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความใกล้เคียงกับฐานลูกค้าของบิทคับ
โดยความร่วมมือกับบิทคับในครั้งนี้จะเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์ม ASTRONIZE ของบริษัทที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้เกมต่างๆ ในรูปแบบโมเดลธุรกิจเดิมปรับเปลี่ยนไปสู่ Play and Earn โดยนำเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาใช้ และใช้โทเคนใน Ecosystem ทำให้ผู้เล่นในเกมสามารถใช้โทเคนในการแลกเปลี่ยนไอเท็มในเกมได้อย่างสะดวกแบบไร้พรมแดน โดยเกมที่ AS ให้บริการใน 6 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านแพลตฟอร์ม ASTRONIZE
สำหรับเกมแรกที่บริษัทจะให้บริการบนแพลตฟอร์ม ASTRONIZE คือ การนำเกมเดิม TS Mobile ที่ได้รับความนิยมสูง และมีฐานผู้เล่นจำนวนมากมาพัฒนาและปรับให้เข้ากับแพลตฟอร์มภายใต้ชื่อเกม TSX อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการรันบนแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยสร้าง Ecosystem รวมกันได้ในอนาคต โดยคาดว่าเกมนี้จะเริ่มให้บริการในไตรมาส 4/66
นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจบริษัทในครึ่งปีหลัง 66 มองว่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีนี้ จากช่วงครึ่งปีแรกที่ยังทรงๆ ไม่ได้หวือหวามาก เพราะในช่วงครึ่งปีหลังมีเกมเปิดตัวอีก 6 เกม มากกว่าครึ่งปีแรกที่เปิดตัวเพียง 4 เกม ส่วนในอนาคตการเพิ่มสัดส่วนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ต้องรอการพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง
ส่วนโทเคนของบริษัทที่จะใช้ในแพลตฟอร์ม ASTRONIZE นั้นคือ AST ซึ่งอยู่ระหว่างการรอหลักเกณฑ์ในการออก ICO ที่เป็น Utility Token จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งทางก.ล.ต.เลื่อนการออกหลักเกณฑ์ไปในช่วงปลายปีนี้ ทำให้แผนการเสนอขาย ICO เลื่อนออกไปเป็นช่วงปี 67 เนื่องจากต้องรอหลักเกณฑ์การจัดประเภทการออก ICO ให้ชัดเจน สำหรับบริษัทจัดอยู่ในหมวดหมู่ Utility Token ประเภทไม่พร้อมใช้
ด้านนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ขอขอบคุณ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือเว็บ 3.0 ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และได้ซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในครั้งนี้
สำหรับก่อนหน้านี้ บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) โดยมีการตั้งบริษัทร่วมทุนในนาม บริษัท คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (KUBPLAY) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบนิเวศของบล็อกเชนครบวงจร เพื่อรองรับเกมต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบโมเดลธุรกิจเดิม (Conventional Game) ให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโมเดลธุรกิจไปสู่ Hybrid GameFi รวมถึงการซื้อสิทธิ์เกมออนไลน์จากผู้พัฒนา เพื่อนำมาให้บริการภายใต้ระบบนิเวศ
ดังนั้นการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนกลุ่มบริษัทบิทคับจะได้พันธมิตรด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญอย่าง บริษัท แอสเฟียร์ฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เกม รวมถึงธุรกิจสื่อและการตลาด เข้ามาผนึกกำลังในกลุ่มบิทคับ รวมไปถึงการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ของบริษัท แอสเฟียร์ อีกด้วย
โดยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทั้งสองบริษัทมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจและการทำงานที่สอดคล้องกัน ดังนั้น กลุ่มบริษัทบิทคับ และ แอสเฟียร์ฯ พร้อมจะแบ่งปันจุดแข็งที่ต่างฝ่ายมีเพื่อ ‘เสริมสร้าง’ ความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทบิทคับให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้การจับมือกันในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้กลุ่มบริษัทบิทคับ สามารถขยายตลาดไปสู่ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต”