สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ค.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ค.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (18 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,951.93 จุด เพิ่มขึ้น 366.58 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,554.98 จุด เพิ่มขึ้น 32.19 จุด หรือ +0.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,353.64 จุด เพิ่มขึ้น 108.69 จุด หรือ +0.76%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (18 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์หนุนตลาดขึ้น หลังบริษัทโนวาร์ติสของสวิตเซอร์แลนด์ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 460.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด หรือ +0.62%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,319.18 จุด เพิ่มขึ้น 27.52 จุด หรือ +0.38%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,125.49 จุด เพิ่มขึ้น 56.84 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,453.69 จุด เพิ่มขึ้น 47.27 จุด หรือ +0.64%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (18 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารสหรัฐ และหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านของอังกฤษทะยานขึ้นจากความหวังว่าอัตราดอกเบี้ยอาจแตะระดับสูงสุดเร็วกว่าคาด

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,453.69 จุด เพิ่มขึ้น 47.27 จุด หรือ +0.64%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (18 ก.ค.) หลังจากทางการจีนให้คำมั่นว่าจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 75.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 79.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันอังคาร (18 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 24.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,980.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2566

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23.80 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 25.256 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 994.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 35.40 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,316.50 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (18 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ขยับขึ้น 0.10% แตะที่ 99.9384

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 138.8750 เยน จากระดับ 138.6470 เยนในวันจันทร์ (17 ก.ค.) แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8576 ฟรังก์ จากระดับ 0.8600 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3174 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3184 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.2135 โครนา จากระดับ 10.2316 โครนา

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1228 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1242 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3045 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3082 ดอลลาร์

Back to top button