น้ำมันดิบปิดพุ่งกว่า 3% รับคาดการณ์สต็อกสหรัฐฯลดลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก โดยสนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิด (15 ธ.ค.) ที่ 37.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 38.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก 500,000 บาร์เรล โดย EIA จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย ส่วนในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 485.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 423,000 บาร์เรล สู่ระดับ 59.4 ล้านบาร์เรล
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้าสู่ระดับ 43 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ ทางบริษัทยังปรับลดคาดการณ์ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ WTI ในปีหน้าสู่ระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 48 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม มูดี้ส์คาดว่าราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบเบรนท์ และ WTI ในปี 2017 และ 2018 จะเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์/บาร์เรลต่อปี ขณะเดียวกัน มูดี้ส์ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทกลุ่มสำรวจและผลิตน้ำมันลงสู่เชิงลบ โดยระบุว่าถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงอ่อนตัวลง