IFEC ทุ่ม 2.5 พันลบ.ซื้อ”ดาราเทวีเชียงใหม่” ขยายไลน์ธุรกิจอสังหาฯ-ศูนย์สุขภาพ
IFEC ทุ่ม 2.5 พันลบ.ซื้อ"ดาราเทวีเชียงใหม่" ขยายไลน์ธุรกิจอสังหาฯ-ศูนย์สุขภาพ ประเมินดาราเทวี เชียงใหม่จะสร้างรายได้ให้บริษัทเฉลี่ยปีละ 800-900 ลบ.
นายวิชัย ถาวรวัฒนยงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อกิจการโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ มูลค่า 2.5 พันล้านบาท โดยใช้กระแสเงินสดของบริษัท และคาดว่ากระบวนการซื้อกิจการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน ธ.ค.นี้ วัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และศูนย์สุขภาพ
“โดยการซื้อโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ 2.5 พันล้านบาท เป็นการซื้อโรงแรมมา 1.5 พันล้านบาท และหนี้ของโรงแรมที่มีอยู่ประมาณ 1 พันล้านบาทด้วย ซึ่งจะทำให้ D/E ของบริษัทเพิ่มเป็น 1 เท่า จากเดิมที่ 0.4 เท่า หลังจากการซื้อเสร็จแล้ว แต่เราก็จะล้างหนี้ของโรงแรมให้หมดหลังจากการซื้อเพราะรวมเราเงินที่ซื้อหนี้มาด้วย” นายวิชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทเห็นศักยภาพของโรงแรมที่สามารถต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย และศูนย์สุขภาพแบบครบวงจรในโรงแรมได้อีก ประกอบกับ เชียงใหม่ก็เป็นเมืองท่องเที่ยว และโรงแรมนี้ก็เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ขณะที่บริษัทต้องการหารายได้ที่เข้ามาสม่ำเสมอ เพราะธุรกิจพลังงานทดแทนก็ค่อนข้างมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น การซื้อกิจการโรงแรมนี้จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงและขยายไลน์ธุรกิจของบริษัท
สำหรับการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมนั้น ปัจจุบันโรงแรมดาราเทวีเชียงใหม่มีพื้นที่เหลือที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาอีก 40 ไร่ ซึ่งบริษัทวางแผนจะพัฒนาเป็นโครงอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย โดยจะมีการร่วมทุนกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจาอยู่ 2-3 รายคาดว่าจะข้อสรุปในปี 59
ขณะที่การขยายธุรกิจศูนย์สุขภาพเพื่อยกระดับศักยภาพของการให้บริการต่างๆด้านสุขงามและความงามอย่างครบวงจร โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มโรงพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้มีการเจรจาในเบื้องต้นแล้ว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/59 โดยการยกระดับศักยภาพของการให้บริการศูนย์สุขภาพในโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่วางงบลงทุนราว 50-60 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประเมินว่า การซื้อโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเฉลี่ยปีละ 800-900 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เฉลี่ยปีละ 100-130 ล้านบาท โดยมีอัตราการเช่าห้องพักเฉลี่ยต่อปี (OCC) อยู่ที่ 60-70% และมีอัตราเฉลี่ยของรายได้ต่อจำนวนห้องพัก (Rev.Par) อยู่ที่ 10,000 บาท/ห้อง/คืน นอกจากนั้น บริษัทจะมีสินทรัพย์รวมเพิ่มเข้ามาอีกมูลค่า 5 พันล้านบาท และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ไม่เกิน 3 ปี ข้างหน้า
ด้านผลประกอบการ IFEC ในปี 59 คาดว่ากำไรสุทธิจะทำได้สูงถึง 1 พันล้านบาท มาจากการรับรู้กำไรจากการขายไฟฟ้าของธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีกำลังการผลิต 42 เมกะวัตต์เต็มปีในปีหน้า ซึ่งจะมีกำไรเข้ามาราว 420 ล้านบาทต่อปี และมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่เข้ามาเต็มปี ประกอบกับ ยังจะมีธุรกิจอื่นๆที่จะเพิ่มมาในปีหน้าอีก 2-3 ธุรกิจ ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในปีหน้าให้เติบโตอย่างโดดเด่น
ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 400 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรกมีกำไรแล้ว 88.80 ล้านบาท มาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าบางส่วนของโครงการพลังงานทดแทน 42 เมกะวัตต์ แม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ 50 เมกวัตต์ในสิ้นปี 58 เนื่องจากมีบางโครงการเลื่อนออกไป แต่คาดว่าบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้และกำไรของโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่เข้ามาบางส่วนในช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค.
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในรัฐนิวเซาท์เวล ประเทศออสเตรเลีย ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมมมากว่าโครงการที่มีการเจรจาอยู่ 2 รายรวมกัน 284 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 59 และแหล่งเงินทุนจะมาจากการออกหุ้นกู้ 3 พันล้านบาทก่อนหน้านี้ และอาจจะมีการทำโปรเจ็คต์ไฟแนนซ์ โดยใช้โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ที่บริษัทซื้อมาเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน