OSP หุ้นใหญ่สายเอ็นฯ.!
ถ้าพูดถึง OSP จากร้านขายยาย่านสำเพ็งสู่ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานมากว่า 130 ปี
ถ้าพูดถึงบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP จากร้านขายยาย่านสำเพ็งสู่ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานมากว่า 130 ปี ที่ถูกส่งไม้ต่อจากเจเนอเรชั่นสู่เจเนอเรชั่น โดยปัจจุบันเข้าสู่ Gen 4 แล้ว..!?
แต่ที่น่าสนใจ Gen ใหม่ของ OSP เริ่มผิดแผกไปจากจารีตเดิม..!! ที่เห็นชัด หลังจากก้าวสู่ความเป็นมหาชน ด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (17 ต.ค. 2561) ก็มีการจัดสรรปันส่วนหุ้นกันในเครือญาติ และเริ่มเห็นการเปลี่ยนผ่านที่ไม่เหมือนเดิม…ดูแล้ว Gen ใหม่ไม่ใช่ Gen ที่จะมาต่อยอดธุรกิจอ๊ะป่าว..!?
เห็นได้จากกรณี “เพชร โอสถานุเคราะห์” ทายาทรุ่น 4 หรือ Gen 4 (เป็นลูกชายของ “สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์”) ซึ่งเดิมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร ที่ถอยฉากออกมา หลังจาก OSP เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ไม่นาน…
เริ่มด้วย “เพชร” ทยอยขายหุ้นออกมา 2 รอบจนเกลี้ยงพอร์ต…รอบแรกตัดขายหุ้น 29.43 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.98% ที่ราคาเฉลี่ย 37 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 1,089 ล้านบาท…แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าขายให้ใคร โดยครั้งนั้นฟันกำไรไปราว 1,060 ล้านบาท เนื่องจากมีต้นทุนหุ้น OSP เพียง 1 บาท (คำนวณจากราคาพาร์) ทำให้มีกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้น 36 บาทต่อหุ้น…
ส่วนอีกรอบขายจำนวน 120.29 ล้านหุ้น คิดเป็น 4% ที่ราคาเฉลี่ย 33 บาทต่อหุ้น โดยขายให้กับลูกพี่ลูกน้อง “นิติ โอสถานุเคราะห์” (เป็นลูกชายของ “สุรินทร์ โอสถานุเคราะห์” ผู้เป็นน้องชายของ “สุรัตน์” พ่อของ “เพชร”) ซึ่งรอบนี้ฟันกำไรไปอีกราว 3,849 ล้านบาท
ทำให้นับตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่ปรากฏชื่อ “เพชร” ถือหุ้นอยู่แล้ว…
ขณะเดียวกัน “เพชร” ก็ลาออกจากทุกตำแหน่งในบอร์ด OSP แล้วเปิดทางให้คนนอกที่เป็นมืออาชีพเข้ามาบริหารงานแทน
เป็นการปิดฉาก “เพชร” กับ OSP โดยสมบูรณ์แบบ..!!
ขณะที่รู้กันดีว่านอกจาก “เพชร” เป็นทายาทรุ่น 4 ของ OSP แล้ว เขายังเป็นเจ้าของเพลงดังอย่าง “เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)” และมีเป้าหมายต้องการปลุกปั้นโครงการด้านศิลปะ วัฒนธรรม และด้านการศึกษา ผ่านมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่มี “สุรัตน์” ผู้เป็นพ่อเป็นผู้ก่อตั้ง…
อันนั้นเป็นเส้นทางของ “เพชร” Gen 4..!?
แต่ล่าสุด OSP มีอีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เมื่อ “นาฑี โอสถานุเคราะห์” Gen 5 ได้รับการโอนหุ้นจากผู้เป็นพ่อ “รัตน์ โอสถานุเคราะห์” (เป็นน้องชายของ “เพชร”) จำนวน 25.19 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 25.00 บาท มูลค่ารวม 629.83 ล้านบาท
ส่งผลให้ “นาฑี” ขยับขึ้นมาถือหุ้นใหญ่เบอร์ 5 ด้วยจำนวน 100.67 ล้านหุ้น จากเดิมถือหุ้นเบอร์ 9 จำนวน 75.48 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.51%…
ที่ว่าน่าสนใจ เพราะนอกจาก “นาฑี” จะสวมหมวกนักธุรกิจ นั่งบริหารงานในตำแหน่ง Market Executive ตั้งแต่ปี 2562-ปัจจุบัน และเป็นกรรมการ OSP ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. 2565 แล้ว ยังสวมหมวกอีกใบ ในฐานะศิลปินมือกีตาร์วง “เก็ทสึโนว่า” (Getsunova) ด้วยนะ
เรียกว่ามีเลือดศิลปินไม่ต่างจาก “ลุงเพชร” นะเนี่ย..!!
อ้อ…“นาฑี” ยังมีศักดิ์เป็นเขย “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม แห่งค่ายแกรมมี่ด้วยนะ เนื่องจากได้เข้าพิธีวิวาห์กับ “อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม” ลูกสาวอากู๋ ไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564…
ก็ไม่รู้ ว่าในอนาคต “นาฑี” จะขายหุ้น OSP ทิ้ง เพื่อไปล่าฝันเหมือน “ลุงเพชร” หรือเปล่าน้อ..??
แต่ดู ๆ ไปแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ OSP นี่สายเอ็นฯ (เอ็นเตอร์เทน) กันทั้งน้านนนเลยเนอะ..
…อิ อิ อิ…