BEM ไฟส้มสว่าง.!

พลันที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกฟ้องคดี BTSC ลูกในไส้ BTS ยื่นฟ้องบอร์ดคณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม. ปมปรับหลักเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม


พลันที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกฟ้องคดี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ลูกในไส้บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ยื่นฟ้องบอร์ดคณะกรรมการคัดเลือกฯ และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปมปรับหลักเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รอบ 2 กรณีเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม มิชอบด้วยกฎหมายนั้น

โดยศาลเห็นว่า การประกาศเชิญชวนถูกต้องตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการที่พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ และประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกำหนด จึงไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายในลักษณะใด

ก็ทำให้สิ่งที่เป็นข้อกังวลของรถไฟฟ้าสายสีส้มเปราะนี้หมดไป…บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในฐานะผู้ชนะการประมูลโครงการนี้ และนั่งตบยุงรอร๊อรอเซ็นสัญญามานานหลายดือนแล้ว จะได้เห็นไฟส้มสว่างไสวซะที..!!

โอเค…แม้ BTS คงใช้สิทธิอุทธรณ์ไปตามระเบียบ (พัก) แต่ดูแล้วคงยาก ซึ่งจากคำสั่งศาลปกครองกลาง ก็น่าจะเป็นบรรทัดฐานให้กับคดีอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาละมั้ง…

ทำให้โอกาสที่ BEM จะได้จรดปากกาเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มก็ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิด ๆ เข้ามาอีกหน่อย..!! เนื่องจากขั้นตอนทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่รอครม.รัฐบาลชุดใหม่ ให้สัญญาณไฟเขียวเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์กันว่าไม่น่าจะเกินไตรมาส 3 ปีนี้อะนะ..?

แน่นอนว่า หาก BEM ได้เซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มเร็ว ๆ นี้จริง ก็จะเป็นอีกหนึ่งสตอรี่เชิงบวกที่จะสนับสนุนการเติบโตในอนาคต นอกเหนือจากการฟื้นตัวของผู้โดยสารรถไฟฟ้า และปริมาณผู้ใช้ทางด่วนที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามกิจกรรมการเดินทางที่ฟื้นตัวใกล้เคียงก่อนโควิดแล้ว

แต่ระหว่างที่ BEM ยังต้องรอรับรู้รายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งกว่าจะสร้างเสร็จคงใช้เวลาอย่างน้อย 2–3 ปีโน่นแหละ คนที่ได้ประโยชน์ก่อนเลย คงไม่ต้องบอกนะว่าเป็นใคร ถ้าไม่ใช่คนเป็นแม่อย่างบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ที่จะได้งานก่อสร้างไปก่อนเป็นอันดับแรก…

ซึ่งไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไร เพราะฉายา CK เป็นแม่ที่หากินกับลูกอยู่แล้วนี่…

ที่น่าสนใจจะทำให้แบ็กล็อกของ CK มีโอกาสบวมเป่งทะลุ 300,000 ล้านบาทได้นะ จากปัจจุบันมีแบ็กล็อกทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 149,353 ล้านบาท

ไม่นับรวมการรับรู้รายได้และกำไรจาก BEM ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่จะเข้ามาอีกขานะ…

งานนี้ต้องบอกว่า CK รับเละทั้งขึ้นทั้งล่อง..!?

จึงไม่น่าแปลกใจที่ช่วงนี้มีคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ให้ “ซื้อ” หุ้นแม่ลูกคู่นี้ติดไว้ในพอร์ต

โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า CK มีมูลค่างานในมือทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.49 แสนล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 แม้ในไตรมาส 2/2566 อาจเป็น Low Season สำหรับการก่อสร้าง เนื่องจากมีวันหยุดยาวและเป็นฤดูฝน อย่างไรก็ดีคาดว่าผลประกอบการของ CK ในไตรมาส 2/2566 จะเพิ่มขึ้น ได้ปัจจัยหนุนจาก 1)รายได้ก่อสร้างที่โตจากมูลค่างานในมือที่สูงขึ้น 2)รายได้เงินปันผลจาก TTW และ 3)ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากบริษัทร่วม BEM และ CKP ตามปัจจัยด้านฤดูกาล แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท

ฟาก BEM บล.หยวนต้า คาดกำไรปกติในไตรมาส 2/2566 ฟื้นตัวเด่นที่ 820 ล้านบาท หนุนจากกิจกรรมการเดินทางที่ฟื้นตัว และเงินปันผลจากบริษัทที่ไปลงทุน ขณะที่ปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้าครึ่งปีแรกกลับมาสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดแล้วที่ 3.66 แสนเที่ยว/วัน ในขณะที่ปริมาณผู้ใช้ทางด่วนฟื้นตัวแล้วกว่า 90% เทียบกับช่วงก่อนโควิด และคาดจะเห็นความชัดเจนในรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในช่วงไตรมาส 3/2566 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท

แต่ละตัวยังมีอัพไซด์อีกเพียบนะออเจ้า…

…อิ อิ อิ…

Back to top button