EA นำทีม “โรงไฟฟ้า” ปิดบวก! คลายกังวล กกพ. ลดค่าเอฟทีเพียง 25 สต. น้อยกว่าคาด

ผู้สื่อข่าวรายงาน (27 ก.ค.66) ว่าสำหรับราคาหุ้นที่ดีดกลับขึ้นมา ตอบรับข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เคาะลดค่าเอฟทีงวดใหม่เดือน ก.ย.-ธ.ค.66 เหลือ 4.45 บ./หน่วย นำโดย บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA อยู่ที่ระดับ 59.75 บาท บวก 5.00 บาท หรือ 9.13% สูงสุดที่ระดับ 60 บาท ต่ำสุดที่ 55.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,666.91 ล้านบาท

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ระดับ 50.00 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 3.09% สูงสุดที่ระดับ 50.00 บาท ต่ำสุดที่ 48.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,450.63 ล้านบาท

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM อยู่ที่ระดับ 38.75 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 5.44% สูงสุดที่ระดับ 39.00 บาท ต่ำสุดที่ 36.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 503.79  ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.พาย เปิดเผยว่า ราคาหุ้น EA ดีดกลับขึ้นมา รับข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงจากงวดปัจจุบัน 4.70 บาทเหลืออยู่ที่ 4.45 บาท มีผลรอบบิลเดือน ก.ย.66 โดยการลดลงของค่าไฟรอบนี้อยู่ในกรอบด้านต่ำที่ กกพ. กำหนดไว้ว่าจะลดในช่วง 20-50 สตางค์ต่อหน่วย

โดยมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งการลดค่าไฟในอัตราที่ช้ากว่าราคาต้นทุนหลักคือก๊าซธรรมชาติ จะส่งผลตีต่อการขยายตัวของอัตรากำไรกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าประเภท SPP และปัจจุบัน EA มีสัดส่วนกำไรมาจากธุรกิจ Renewable มากถึง 90%

อีกทั้งก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก ทำให้เมื่อมีปัจจัยเข้ามาหนุน ราคาจึงขยับขึ้นได้ดีกว่าตัวอื่นๆ ในกลุ่ม อย่างไรก็ตามยังแนะนำ “ถือ” เนื่องจากมองธุรกิจใหม่ อย่าง EV และแบตเตอรี่ทำกำไรได้ไม่มาก และมีคู่แข่งค่อนข้างมาก ให้ราคาเป้าหมายหุ้น EA ปี 66 ที่ 68 บาท

นอกจากนี้ กลุ่มหุ้นดังกล่าวมีการปรับตัวลงลึกในช่วงก่อนหน้า เมื่อตลาดหุ้นมีการฟื้นตัวทำให้หุ้นดังกล่าวเกิดการเด้งกลับเร็ว เนื่องจากเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มบลูชิพ พร้อมด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงทำให้นักลงทุนเข้ามาไล่เก็บ