ARROW มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 1.2 พันลบ. – กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่

ARROW มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 1.2 พันลบ. – กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ คาดกำไรปี 59 สูงกว่าปีนี้ ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 1.4 พันลบ. เตรียมขยายไลน์สินค้าใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างเหล็ก ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 15-20% ภายใน 2-3 ปี จากปัจจุบัน 8%


นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,200 ล้านบาท และกำไรสุทธิสูงสุดทำสถิติใหม่ หลัง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 183 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/58 ยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีใบสั่งซื้อสินค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการผลิต คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 280 ล้านบาท

“เชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะมีคำสั่งซื้อใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน ARROW มีใบสั่งซื้อสินค้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการผลิตคิดเป็นจำนวนมากกว่า 280 ล้านบาท  โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้”นายธานินทร์ กล่าว

ขณะที่บริษัทมั่นใจกำไรสุทธิปี 59 จะสูงกว่าปีนี้ แม้ว่าอัตรากำไรสุทธิจะลดลงบ้าง ขณะที่ตั้งเป้ารายได้เติบโตมาที่ราว 1,400 ล้านบาท โดยบริษัทจะมีการแข่งขันด้านราคาเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้สูงขึ้นเป็น 65% จากปัจจุบันอยู่ที่ 55% จึงอาจมีผลต่ออัตรากำไรบ้าง

พร้อมกันนั้น บริษัทเตรียมขยายไลน์สินค้าใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างเหล็ก โดยได้ซัพพลายเออร์จากประเทศจีน คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายสินค้าได้ในปี 59 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีงานในรอรับรู้รายได้(backlog)ราว 170 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ไปถึงช่วงไตรมาส 1/59 และยังอยู่ระหว่างผลการเสนอราคางานใหม่มูลค่าราว 300 ล้านบาทด้วย

โดยบริษัทยังมีเป้าหมายทยอยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 15-20% ภายใน 2-3 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 8% โดยปี 59 คาดว่าจะเพิ่มมาเป็นไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งจะเน้นการเพิ่มยอดขายในตลาดเดิมที่จำหน่ายอยู่แล้ว คือ ฟิลิปปินส์ พม่า และสหรัฐฯ ในขณะเดียวกันบริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 30 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารเก็บสินค้าขนาด 12,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และขยายไลน์การผลิตบางส่วนเพิ่มเติมด้วย

สำหรับ เมฆา-เอส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ ARROW ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 65% นั้นคาดว่าผลประกอบการในปีหน้าจะเติบโตกว่า 2 เท่าตัว จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 100 ล้านบาท เนื่องจากมี Backlog กว่า 50 ล้านบาท ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 59 ต่อเนื่อง ทั้งนี้การเติบโตที่ค่อนข้างมากของบริษัทย่อย บริษัทฯก็อาจจะมีการเข้าถือหุ้นเพิ่มเติมด้วย

“ปีหน้ารายได้ในธุรกิจเดิมคงจะไม่เติบโตมากนัก แต่ปริมาณการขายจะสูงขึ้น เพราะเราไปเน้นเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้สูงขึ้น ซึ่งก็ต้างใช้กลยุทธ์การแข่งขันด้านราคาบ้าง แต่อย่างไรก็ตามด้านต้นทุนการผลิตเราได้เปรียบกว่ารายอื่นๆ เราจึงมั่นใจว่ากำไรสุทธิต้างขยายตัวเมื่อเทียบกับปีนี้แน่นอน ในขณะเดียวกันช่วงต้นปีเราคงมุ่งไปขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้นด้วยเพราะเรามองว่างานในประเทศจะชะลอตัวไปจนถึงช่วงปลายปีจนกว่าจะมีงานต่างๆจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง”นายธานินทร์ กล่าว

 

Back to top button