หุ้น SAWADลูบคมตลาดทุน

ธนะชัย ณ นคร

 

วันก่อนหน้านี้ทั้งคุณดวงใจ และคุณธิดา แก้วบุตตา 2 ผู้บริหารระดับสูง บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 หรือ SAWAD เข้ามาทักทายกับทีม “ข่าวหุ้นธุรกิจ”

วันนั้นคุยกันหลายเรื่อง

ทั้งธุรกิจของ SAWAD, แนวคิดด้านการตลาด, แบรนดิ้ง (Branding) และอื่นๆ อีกมากมาย

ผมถามเรื่องที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับ “เงินติดล้อ”

คุณดวงใจ เป็นคนอธิบายเรื่องนี้ด้วยการย้ำอีกครั้งว่า ตัวของ SAWAD ไม่ได้ถูกฟ้องร้อง

ส่วนที่ถูกฟ้องจริงๆ คือตัวของ “ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์” ซึ่งเป็นบริษัทอีกแห่ง

ก่อนที่คุณธิดา จะเล่าความเป็นมา และที่มาของปัญหา “เงินติดล้อ” ว่า เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มเอไอจี ที่เข้ามาร่วมทุน จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด และสร้างเครื่องหมายการค้า “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” แล้วไปขายให้กับแบงก์กรุงศรีฯ

คำพิพากษาของศาลตัดสินให้ “ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์” ผิดเพียงแค่ใช้ฟอนต์ตัวหนังสือเท่านั้น

ถูกปรับไป 2,000 บาท

นอกจากนี้ ก็ไม่ได้มีคำสั่งจากศาลว่าเราผิดในส่วนใดๆ รวมถึงคำว่า“ศรีสวัสดิ์” ก็ยังใช้ได้ต่อไป

ทั้งคุณดวงใจ และคุณธิดา ก็บอกว่า เดิมนั้น ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาหลังคุณพ่อของเธอ (ฉัตรชัย แก้วบุตตา) ได้ขายกิจการไปให้กับเอไอจี

ส่วนคำว่า “ศรีสวัสดิ์” นั้น เป็นคำที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้

พร้อมยกตัวอย่างด้วย เช่น “ศรีสวัสดิ์การผ้าใบ” ทำธุรกิจเกี่ยวกับเต๊นท์ผ้าใบ และไม่ได้เกี่ยวกับไรกับธุรกิจของเราเลย

หรือ “ศรีสวัสดิ์ลีสซิ่ง” ก็ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทเช่นกัน

บทสรุปของคำว่า ศรีสวัสดิ์ ก็คือ ทุกคนใช้คำๆ นี้ได้

ในช่วงเริ่มแรกของการตั้ง SAWAD ทั้ง 2 คน ต่างยอมรับว่า ทำธุรกิจยากมาก (พอร์ตลูกค้ายังเป็นของ SAWAD) นั่นเพราะลูกค้าจะติดกับพนักงานที่เคยให้บริการคนเดิม

“เราเรียกหรือติดตามหนี้ยากมากๆ” คุณธิดา น้องสาวเล่าให้ฟัง

ทว่า หลายๆ เรื่องก็ผ่านมาได้

ผมถามว่า เหมือนจุดแข็งของ SAWAD จะอยู่ที่การติดตามหนี้…?

และก็ถามต่อเลยว่า มีวิธีการติดตามหนี้อย่างไร ถึงคุมหนี้เสียได้ค่อนข้างดี…?

คำตอบคือ หากเขาพบว่าลูกหนี้คนไหนมีปัญหา ก็จะใช้วิธีเป็นการหารือร่วมกัน จับเข่าคุยกัน

หรือ ดูว่า เขาพอจะชำระได้เท่าไหร่ อย่างไร

“คือ…เราไม่ได้เข้าไปบีบเขา ซึ่งมันแตกต่างกับธนาคาร”

นี่คือแนวทางที่คุณดวงใจบอก

ปัจจุบัน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ SAWAD เฉลี่ยอยู่ที่กว่า 3% และทั้ง 2 คนต่างบอกว่า เขาควบคุมหนี้เสียให้อยู่ในระดับนี้ต่อไปได้

คุณธิดา บอกว่า หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากไปยึดสินทรัพย์ของเขา (ลูกหนี้) เพราะเขาก็ต้องใช้ทำมาหากิน

หากไปยึด ก็ยิ่งจะไปกันใหญ่…

ดังนั้น หากพอจะชำระเท่าไหร่ได้ ก็ชำระมาก่อน แล้วค่อยๆ มาแก้ปัญหากันไป

จริงๆ แล้ว 2 ผู้บริหารสาวนั้นอายุยังไม่เยอะครับ

แต่หากใครเคนอ่านประวัติของทั้ง 2 คน ก็จะพบว่า พวกเขาต่างได้เรียนรู้วิธีการทำธุรกิจ การเจรจาจากคุณพ่อของเขามาแบบลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

“เสี่ยปู่” – สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล นักลงทุนรายใหญ่ และปัจจุบันก็ถือหุ้น SAWAD ในสัดส่วนค่อนข้างมาก เคยกล่าวชื่นชมผู้บริหารหญิงทั้ง 2 คนนี้

แต่เสี่ยปู่ก็บอกว่า คนที่เก่งสุดคือ คุณฉัตรชัย แก้วบุตตา

ตลาดในประเทศไทยสำหรับ SAWAD แล้ว ยังถือว่าขยายตัวได้อีกมาก

ทว่า พวกเขาเองก็ไม่อยากทิ้งโอกาสในการเข้าไปลงทุนประเทศในกลุ่มอาเซียน เริ่มจากกลุ่ม CLMVทั้ง กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม

ล่าสุด ก็ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นในเวียดนามเปิดบริษัท และเตรียมให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนมอเตอร์ไซค์

ทั้ง 2 คนบอกว่า เวียดนามเป็นตลาดใหญ่ และน่าสนใจมาก

ผมบอกว่า แต่คนที่นั่น (เวียดนาม) เขาซื้อบ้าน ซื้อรถ ด้วยเงินสดกันนะ และการแข่งขันก็อาจจะโหดด้วย

คุณดวงใจบอกว่า เดี๋ยวก็รู้ว่าใครโหดกว่า…

ขณะที่คุณธิดา บอกเช่นว่า เขาเชื่อว่าพฤติกรรมคนเวียดนามจะเปลี่ยนไป แต่หันมาใช้บริการด้านสินเชื่อมากขึ้น และเขาก็รู้ว่าจะต้องบริหารความเสี่ยงอย่างไร

ความท้าทายใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับ 2 สาวนี้อีกแล้ว