สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ส.ค.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ส.ค.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (4 ส.ค.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงแรกหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานต่ำกว่าคาด แต่ตลาดถูกถ่วงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อาทิ หุ้นแอปเปิ้ลร่วงลงกว่า 4% หลังรายงานยอดขายรายไตรมาสลดลง

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,065.62 จุด ลดลง 150.27 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,478.03 จุด ลดลง 23.86 จุด หรือ -0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,909.24 จุด ลดลง 50.48 จุด หรือ -0.36%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (4 ส.ค.) โดยฟื้นตัวหลังติดลบ 3 วันติดต่อกัน ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 459.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด หรือ +0.29% แต่ปรับตัวลง 2.4% ในรอบสัปดาห์นี้หลังปรับตัวขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,315.07 จุด เพิ่มขึ้น 54.54 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,951.86 จุด เพิ่มขึ้น 58.48 จุด หรือ +0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,564.37 จุด เพิ่มขึ้น 35.21 จุด หรือ +0.47%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (4 ส.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลง 3 วันติดต่อกัน ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนตลาด

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,564.37 จุด เพิ่มขึ้น 35.21 จุด หรือ +0.47%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (4 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดของปีนี้ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยขานรับผลการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในวันศุกร์ ซึ่งจะลดการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปีหน้า

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 82.82  ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 86.24 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (4 ส.ค.) หลังจากติดลบ 3 วันติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,976.10 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ลดลง 1.2% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 23.72 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.70 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 928.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,264.60  ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (4 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.52% แตะที่ 102.0145

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ส่วนใหญ่ ยกเว้นดอลลาร์แคนาดา โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 141.8580 เยนในวันศุกร์ (4 ส.ค.) จาก 142.7030 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 0.8727 ฟรังก์สวิส จาก 0.8751 ฟรังก์สวิส และอ่อนค่าลงแตะ 10.5834 โครนาสวีเดน จาก 10.7100 โครนาสวีเดน แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 1.3379 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3354 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1009 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0944 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี และเงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าแตะ 1.2754 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2701 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button