CPAXT สะท้อนกำไรอ่อนแอ.!?
ทำเอาผิดหวังกันไม่น้อย..เมื่อหุ้นลูกผสม “ค้าปลีก-ค้าส่ง” อย่าง CPAXT ประกาศตัวเลขงบการเงินไตรมาส 2/66 ออกมา ลดลง 4% เมื่อเทียบไตรมาส 2/65
ทำเอาผิดหวังกันไม่น้อย..เมื่อหุ้นลูกผสม “ค้าปลีก-ค้าส่ง” อย่างบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ประกาศตัวเลขงบการเงินไตรมาส 2/66 ออกมา มีกำไรสุทธิ 1,500 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบไตรมาส 2/65 และลดลงถึง 30% เมื่อเทียบไตรมาส 1/66 ที่ผ่านมา
ตัวเลขผลกำไรที่อ่อนแอลง มาจากอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจค้าส่งลดลง สวนทางค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าส่งออนไลน์เพิ่มขึ้น นั่นจึงทำให้กำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแค่ 1% เท่านั้น
โดยธุรกิจค้าส่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 43% เทียบไตรมาส 1/66 สาเหตุสำคัญเป็นเพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
แม้การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะออกมาดีที่ระดับ 6% แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 9.8% จากการแข่งขันด้านราคา ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) อยู่ที่ 5,900 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น 0.4% เทียบกับไตรมาส 1/66
ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 9.3% จากต้นทุนสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์
ส่วนธุรกิจค้าปลีก กำไรสุทธิอยู่ที่ 427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 59% เทียบไตรมาส 1/66 เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง หลังจากการปรับโครงสร้างหนี้ (refinance) เสร็จสิ้น
โดยรายได้ไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 52,200 ล้านบาท ลดลง 3% แต่เพิ่มขึ้น +4% เมื่อเทียบไตรมาส 1/66 ที่ผ่านมา
หุ้น CPAXT ถูกตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูง จากการเข้าควบรวมกิจการกับโลตัส..ที่น่าจะสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ..แต่ไตรมาส 2/66 พิสูจน์ให้เห็นว่า..มูลค่าเพิ่มจากการควบกิจการ ยังไม่สามารถเฉิดฉายให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้
ที่สำคัญอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเหลือ 9.8% ยิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพว่าด้วยการบริหารจัดการต้นทุนยังไม่ดีเท่าที่ควร แม้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นจากการรีไฟแนนซ์ด้วยก็ตาม
น่าติดตามช่วงครึ่งปีหลังที่ CPAXT มีแผนขยายสาขาหลากหลายรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสาขาขนาดใหญ่ 8-10 สาขา ส่วนสาขาขนาดกลางและขนาดเล็ก 70-80 สาขา
โดยเฉพาะแผนการขายนอกร้าน มีการวางงบลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท พัฒนาระบบออนไลน์และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตและมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ระดับภูมิภาค และเน้นทำโปรโมชั่นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากน้อยเพียงใด
มุมมองจากนักวิเคราะห์ จากงบการเงินไตรมาส 2/66 ที่ออกมาน่าผิดหวังทำให้มีการปรับประมาณกำไรช่วงปี 2566 ลดลง 20% จากเดิม 11,400 ล้านบาท ลงมาเป็นระดับ 9,100 ล้านบาท และปี 2567 ลดลง 18% จากเดิม 14,100 ล้านบาท ลงมาเป็น 12,000 ล้านบาท สะท้อนกำลังซื้อที่ฟื้นตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า
อย่างไรก็ดีปัจจัยเสี่ยงที่ CPAXT ต้องเผชิญต่อไป นั่นก็คือเศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้, ดิสรัปชันที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ