OSP อัดงบ 1.2 พันล้าน ปันผล 0.40 บาท/หุ้น หลังโกยกำไร Q2 กว่า 549 ล้าน

OSP โชว์กำไรไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 549 ล้านบาท พร้อมประกาศปันผลระหว่างกาล 0.40 บาท/หุ้น ขึ้น XD 23 ส.ค.66 เคาะจ่าย 8 ก.ย.66


นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 6,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ด้านความหลากหลายของกลุ่มสินค้าที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยรวมถึงการทำกิจกรรมการตลาดของแบรนด์ เอ็ม-150 ภายใต้กลยุทธ์ ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง ที่คว้า 5 คนดังระดับแนวหน้าของประเทศไทยมาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย ทำให้สามารถครองใจของผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น ประกอบกับการมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง

โดยส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาสก่อน เป็น 47.5% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ภายใต้แบรนด์ ซี-วิท ยังครองแชมป์ผู้นำตลาด ส่วนตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ยังรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างโดดเด่นขยายตัวเป็นเลข 2 หลักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าสะท้อนความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการจัดการผ่านทีมงานและโรงงานผลิตในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ต้องเผชิญสถานการณ์ความไม่แน่นอน

ด้านกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ ทำได้ 549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสก่อนที่ไม่รวมเงินปันผลรับจากเงินลงทุนจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องติดต่อกัน 4 ไตรมาส อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของยอดขาย และการจัดการประสิทธิภาพการผลิตและบริหารต้นทุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการได้รับประโยชน์จากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลงและส่งผลดีต่ออัตราการทำกำไรขั้นต้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 66 เมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 ในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 1,202 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและให้ผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลในวันที่ 24 ส.ค.66 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 ก.ย.66

ทั้งนี้แผนงานครึ่งปีหลังโอสถสภายังคงขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ พร้อมสร้างความได้เปรียบในทุกด้าน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและผลักดันยอดขายของปี 66 ให้เติบโตเป็นเลข 2 หลัก โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างต่อเนื่องและบริหารจัดการต้นทุนในทุกด้าน มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค อันเป็นเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจของโอสถสภา พร้อมทั้งเดินหน้ารองรับแผนงานสร้างการเติบโตจากภายนอก (inorganic growth) รวมถึงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 93 เพื่อให้โอสถสภาเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Back to top button