TACC โชว์รายได้ไตรมาส 2 โต 15% เคาะปันผล 0.17 บาท/หุ้น

TACC รายได้ไตรมาส 2 โต 15% รับไฮซีซั่น ดันกำไรแตะ 62 ล้านบาท บอร์ดใจดีแจกปันผลระหว่างกาล 0.17 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 24 ส.ค.66 แย้มครึ่งปีหลังเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เดิม


นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์  จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/66 มีรายได้รวม 447.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 389.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 62.41 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 66 มีรายได้รวม 826.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.46% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 728.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.84 ล้านบาท

โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากในไตรมาส 2 จะเป็นช่วงฤดูกาลที่ดีของธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งในปีนี้ก็มีทิศทางเดียวกัน ทำให้มียอดขายเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงยังได้รับอานิสงส์ของการฟื้นตัวของการเดินทางท่องเที่ยว และการฟื้นตัวกลับมาของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.17 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.66 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 25 ส.ค.66 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 24 ส.ค.66

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และจำนวนที่จะซื้อคืนไม่เกิน 11,000,000 หุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 1.81 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯยังคงเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เดิม ลุยพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภค อีกทั้งบริหารจัดการควบคุมพัฒนาค่าใช้จ่ายและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังรุกขยายลงทุนธุรกิจ Health and Wellness เต็มรูปแบบ

โดยกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมทั้งออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และ เครื่องดื่ม Non Coffee Menu ใน All Café ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา

ขณะที่ กลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างความแตกต่างให้กับผู้ประกอบการ ร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ

“แนวโน้มการดำเนินงานในปี 66 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 10% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจเครื่องดื่มที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และการเดินหน้าธุรกิจ Health and Wellness ของบริษัทย่อยแบบครบวงจร ในนามบริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด เพื่อขยายแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ    ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็น Next S Curve ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายชัชชวี กล่าว

Back to top button