พาราสาวะถี
ตัวเลขตั้ง “รัฐบาลพิเศษ” ตามสมการของพรรคเพื่อไทย ยังไม่นิ่งที่ 315 เสียง เมื่อ ภูมิธรรม รองหัวหน้าพรรคในฐานะขงเบ้งผู้วางแผนและเดินเกมรวบรวมเสียงจากทุกพรรคการเมือง
ตัวเลขตั้ง “รัฐบาลพิเศษ” ตามสมการของพรรคเพื่อไทย ยังไม่นิ่งที่ 315 เสียง เมื่อ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคในฐานะขงเบ้งผู้วางแผนและเดินเกมรวบรวมเสียงจากทุกพรรคการเมือง ตามคำประกาศผ่านแถลงการณ์สลายขั้วทางการเมือง ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคสองลุง ยืนยันว่า 40 เสียงของพรรคสืบทอดอำนาจไม่มีปัญหา แต่ 36 เสียงของรวมไทยสร้างชาติยังไม่แน่ เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปไตยใหม่แม้พรรคจะประกาศสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรคแกนนำตั้งรัฐบาล แต่เพื่อไทยยังไม่ตอบรับ
เท่ากับว่าตัวเลขของเสียงหนุน เศรษฐา ทวีสิน เวลานี้ยังอยู่ที่ 278 เสียง เหตุที่ไม่สามารถบวกเสียงของรวมไทยสร้างชาติเข้าไปได้นั้น ไม่ได้เกิดจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่วางมือทางการเมืองอย่างแท้จริง แต่ติดเงื่อนไขที่ว่ามีข้อเสนอที่พ่วงมากับการยกมือให้คือขอเก้าอี้กระทรวงพลังงานเป็นการการันตี ซึ่งเพื่อไทยไม่ยอมปล่อยให้พรรคอื่นอยู่แล้ว จึงยังตกลงกันไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น อาการสะดุดอาจไม่ได้หยุดแค่นี้ เมื่อบรรดาพวกเขี้ยวลากดินอยากให้เคาะตำแหน่ง แบ่งกระทรวงกันให้ชัดก่อนโหวตนายกฯ
พวกขั้วอำนาจเดิมย่อมอยากที่จะกลับไปคุมกระทรวงเก่าที่ตัวเองเคยกุมบังเหียน รู้กันอยู่ว่ามีวาระหรือผลประโยชน์อะไรที่ต้องการเข้าไปจัดการให้ต่อเนื่อง แต่เพื่อไทยก็ประสงค์ที่จะคุมกระทรวงเศรษฐกิจเพื่อโชว์ศักยภาพ เรียกคะแนนนิยมที่เสียหายไปจากการเสียมวลชนเพราะดึงเอาพรรคสองลุงมาเข้าร่วม จากที่คิดว่าจะฉลุยจึงทำท่าว่าจะติดหล่ม จมอยู่กับการแบ่งเค้ก สูตร 9 เก้าอี้ สส.ได้ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรีตรงนี้ชัด แต่การจัดสรรปันส่วนต้องไม่ใช่การมัดมือชก
พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลแม้จะมีเสียงที่มากกว่า และความต้องการอยู่ที่อยากแสดงฝีมือการบริหารให้คนเห็น แต่มันไม่ได้มีแค่เรื่องขอได้เข้าไปกุมอำนาจฝ่ายบริหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีประเด็นที่ถูกแนวร่วมที่ประกาศตัดญาติขาดมิตรกันไปจำนวนไม่น้อยอย่างคนเสื้อแดงโจมตีคือ หวังจะได้เป็นรัฐบาลเพียงเพื่อช่วยคนคนเดียว จนทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่อาจทำให้ไม่กล้าหักกับข้อเสนอที่พรรคร่วมทั้งหลายเรียกร้องมา
ประสาคนที่ช่ำชองในการเจรจาต่อรองคนในพรรคนายใหญ่อาจมั่นใจว่า ทักษิณ ชินวัตร คงไม่โง่ที่จะถูกหลอกซ้ำซาก ดีดลูกคิดคำนวณกันออกมาแล้วได้มากกว่าเสีย ไม่ต้องห่วงเรื่องการเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าทำผลงานดี คนที่ประกาศว่าจะหันหลังให้อาจกลับมาทบทวนอีกครั้ง มันก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่เมื่อมองถึงตรงนี้ ที่บอกว่าขอให้โหวตเลือกนายกฯ กันไปก่อน แล้วค่อยมาคุยกันเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเสียแล้ว ไม่ต่างกันกับเรื่องวันโหวตเลือกนายกฯ ที่เพื่อไทยต้องการทำให้เร็วที่สุด
วางกันไว้ว่าถ้า 16 สิงหาคมนี้รู้คำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นไม่เกิน 2 วันก็ต้องได้โหวตเลือกนายกฯ กัน แต่ปรากฏสัญญาณมาจากผู้มีอำนาจตัวจริง หลังพี่น้อง 3 ป.ปิดห้องคุยกับ พรเพชร วิชิตชลชัย เมื่อวันคล้ายวันเกิดพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. ก็เคาะกันมาว่าจะให้มีการประชุมรัฐสภาเลือกนายกฯ วันที่ 22 สิงหาคม เท่ากับว่า เป็นการขีดเส้นดึงจังหวะเพื่อดูสถานการณ์ ให้ฝ่ายของตัวเองกุมความได้เปรียบมากที่สุด ถึงขนาดที่ว่ามีข่าวหลุดมาจากวงใน ท้ายที่สุดเศรษฐาอาจไปไม่ถึงฝัน
อย่าได้ประมาทขบวนการสืบทอดอำนาจ อ่านท่วงทำนองของพวกลากตั้งก็จะเห็น บรรดาขาประจำยังแสดงความกังขาต่อแคนดิเดตนายกฯ ที่เพื่อไทยจะเสนอชื่อให้โหวต ดีไม่ดีที่บอกว่าตั้งรัฐบาลหนนี้พรรคตัวเองต้องกลืนเลือด อาจจะกลายเป็นชนวนให้เกิดการหลั่งเลือดแทน เพราะคนส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นการกลืนน้ำลาย ท้าทายมวลชนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงมากกว่า หากเสียสัตย์เพื่อชาติทำให้เกิดพฤษภาทมิฬ แล้วตระบัดสัตย์เพื่อแม้วจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ น่าลุ้นเป็นอย่างยิ่ง แต่การเมืองช่วงชุลมุนที่สับขาหลอกกันยิ่งกว่านักฟุตบอลอาชีพ อย่าได้เชื่ออะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะได้นายกฯ และตั้งรัฐบาลกันเสร็จแล้ว