เปิดโผ 20 หุ้น รับการเมืองคืบหน้า ลุ้นโหวตนายกฯ 22 ส.ค.นี้
บล.เอเซียพลัส แนะนำหุ้นเด่น 5 กลุ่มรับการเมืองคืบหน้า “วันนอร์” นัดโหวตนายกฯ 22 ส.ค.นี้ หลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับพิจารณากรณี “พิธา” โหวตนายกฯซ้ำรอบ 2 สำหรับหุ่นเด่น STEC, CK, BEM, SAWAD, CBG, JMT, TRUE, CRC, CPN, CPALL, BJC, GULF, BGRIM, GPSC, PTTGC, SIRI, SC, ADVANC, PR9 และ SCB
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ส.ค.66) ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่ประชุมรัฐสภามีมติไม่ให้เสนอชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีโหวตซ้ำอีกในสมัยประชุมเดียวกัน เนื่องจากผู้ที่มาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินทุกคนไม่ใช่บุคคลที่พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อไว้ว่าจะเสนอรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่ได้เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อต่อรัฐสภา ดังนั้นจึงไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องเรียนดังกล่าว
“ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว คำขออื่นย่อมเป็นอันตกไป” คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ
สำหรับจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยนี้ จะส่งผลให้มติที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 มีผลคงเดิม คือ จะไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำได้ หรือก็คือชื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะไม่สามารถถูกนำมาเสนอซ้ำเพื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วานนี้ (16 ส.ค.66) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เผยว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอวินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี รอบสอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น จึงก็ถือว่าสิ่งที่รัฐสภาประชุมไป ทำได้โดยถูกต้องไม่ขัดต่อสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นไปตามที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ ที่จะมีการเชิญสมาชิกรัฐสภาประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งตนได้หารือกับประธานวุฒิสภาไว้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่ สว.บางคนแสดงความเห็นว่านายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ควรที่จะต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อรัฐสภานั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในข้อบังคับไม่ได้กำหนดไว้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะต้องแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งในการเลือกนายกฯ เมื่อปี 2562 ผู้ถูกเสนอชื่อซึ่งไม่ได้เป็น สส.ทั้ง 2 คน ก็ไม่ได้มาแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภา
ทั้งนี้ ในฐานประฐานรัฐสภาเห็นควรว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีควรแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ตอบว่า ตนเองไม่สามารถกำหนดได้ รัฐธรรมนูญและข้อบังคับก็ไม่ได้กำหนด ขึ้นอยู่กับรัฐสภาว่าจะเห็นสมควรอย่างไร
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) กล่าวว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเป็นเอกฉันฑ์ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมมติสภาขวางโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลชิงเก้าอี้ รอบ 2 ชี้ผู้ร้องไม่ได้ถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ม.213 ขณะที่ประธานรัฐสภาอาจกำหนดวันโหวตนายกฯ ครั้งที่ 3 ตามความเป็นไปได้ราววันที่ 22 ส.ค. 2566
โดยประเด็นดังกล่าวมีโอกาสจะเห็นการจัดตั้งรัฐบาลที่เร็วขึ้น และตลาดหุ้นน่าจะคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลใหม่แนะนำหุ้นที่เคยร่วงแรงจากความกังวลเปลี่ยนผ่านทางการเมืองก่อนหน้านี้มีโอกาสดีดตัวขึ้นมาได้ แนะนำหุ้นเด่น 5 กลุ่ม ได้แก่
1.หุ้นรายได้อิงโครงการภาครัฐ ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
2.หุ้นหวังพึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ได้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT
3.หุ้นทุนผูกขาด ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC
4.หุ้นได้รับผลกระทบปรับสูตรค่าไฟฟ้า ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC
5.หุ้นรับกระแสข่าวดังกล่าว ได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI, บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB